นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ได้เชิญเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ในโอกาสที่รับตำแหน่งและเพื่อให้เอกอัครราชทูตได้รับทราบนโยบายการทำงานและความร่วมมือระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งภารกิจดังกล่าวมีการเชิญไว้ล่วงหน้าก่อนที่เหตุการณ์เมื่อวานนี้จะเกิดขึ้น โอกาสนี้ได้ชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทยที่เกิดขึ้นด้วย พร้อมยืนยันว่าจะทำหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทุกคนเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมั่นใจว่ารัฐบาลสามารถทำงานได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไม่ใช่ว่าจะรุนแรงหรือไม่รุนแรง แต่ดูจากพันธมิตรฯ ที่พยายามจะบุกยึดรัฐสภา ฝ่ายตำรวจก็มีหน้าที่ป้องกันและระงับเหตุการณ์ด้วยการใช้แก๊สน้ำตา ถือเป็นหลักสากลที่ใช้กัน อีกทั้งผู้บาดเจ็บก็มีฝ่ายของตำรวจด้วยที่ถูกปืนยิง และถูกแทง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชุมนุมไม่ได้ชุมนุมด้วยความสงบหรือปราศจากอาวุธ อีกทั้งแพทย์ก็ได้ยืนยันแล้วว่า แก๊สน้ำตาไม่ทำให้ถึงขนาดสูญเสียอวัยวะ ทั้งนี้ ทางตำรวจจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
ส่วนเรื่องการเจรจากับพันธมิตรฯ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะยังคงพยายามต่อไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถือว่าเป็นการปิดประตูตาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไม่ใช่ว่าจะรุนแรงหรือไม่รุนแรง แต่ดูจากพันธมิตรฯ ที่พยายามจะบุกยึดรัฐสภา ฝ่ายตำรวจก็มีหน้าที่ป้องกันและระงับเหตุการณ์ด้วยการใช้แก๊สน้ำตา ถือเป็นหลักสากลที่ใช้กัน อีกทั้งผู้บาดเจ็บก็มีฝ่ายของตำรวจด้วยที่ถูกปืนยิง และถูกแทง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชุมนุมไม่ได้ชุมนุมด้วยความสงบหรือปราศจากอาวุธ อีกทั้งแพทย์ก็ได้ยืนยันแล้วว่า แก๊สน้ำตาไม่ทำให้ถึงขนาดสูญเสียอวัยวะ ทั้งนี้ ทางตำรวจจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
ส่วนเรื่องการเจรจากับพันธมิตรฯ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะยังคงพยายามต่อไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถือว่าเป็นการปิดประตูตาย