นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือร่วมกัน 4 ฝ่าย ในบ่ายวันนี้ ระหว่างประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา และผู้นำฝ่ายค้านในสภาแทนราษฎร ที่รัฐสภา ว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม จึงยังไม่ทราบแนวทางของหัวข้อที่จะหารือกัน แต่รัฐบาลจะคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน และตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นฝ่ายค้านจึงไม่ต้องวิตกกังวลถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อีกทั้งผู้ที่จะร่วมแก้ไขนั้นก็จะมาจากทุกภาคส่วน และที่มีการวิตกกังวลว่าจะแก้เฉพาะมาตรา 237 , 309 นั้น ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยเจาะจงว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราใด แต่จะให้เป็นไปตามกระบวนการที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐสภา
ส่วนประเด็นที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุวาระการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับที่นายแพทย์เหวง โตจิราการ และคณะได้เสนอไปนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ขึ้นอยู่ที่การพิจารณาของสภาฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ในส่วนของรัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ไม่ดำเนินการเพื่อใครคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ทางประธานสภาฯ ได้ให้ฝ่ายกฎหมายไปศึกษารูปแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในอดีต ทั้ง ส.ส.ร. 1 ส.ส.ร. 2 และความน่าจะเป็น ขณะเดียวกัน ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากประธานวุฒิสภา และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ขณะที่การเจรจากับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เพราะเข้าใจดีว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลา ซึ่งรัฐบาลก็มีความตั้งใจที่จะสร้างความเข้าใจระหว่างกัน เพียงแต่ช่วงระยะเวลานับจากนี้มีพระราชพิธีหลายงาน จึงอยากให้พันธมิตรฯ คำนึงถึงภาพลักษณ์ของประเทศ ทั้งนี้ หากพันธมิตรฯ มีการเสนอเงื่อนไขใดๆ ก็ต้องมีการพูดคุยกัน แต่ทุกอย่างต้องรักษากฎหมาย นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การบุกยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว ส่วนความเหมาะสมที่พันธมิตรฯ ควรจะออกจากทำเนียบรัฐบาลก่อนที่จะมีการซักซ้อมพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์นั้น นายกรัฐมนตรี บอกว่า ความจริงแล้วอยากให้พันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันนี้ หากเข้าใจสถานการณ์ในขณะนี้
ส่วนประเด็นที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุวาระการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับที่นายแพทย์เหวง โตจิราการ และคณะได้เสนอไปนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ขึ้นอยู่ที่การพิจารณาของสภาฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ในส่วนของรัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ไม่ดำเนินการเพื่อใครคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ทางประธานสภาฯ ได้ให้ฝ่ายกฎหมายไปศึกษารูปแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในอดีต ทั้ง ส.ส.ร. 1 ส.ส.ร. 2 และความน่าจะเป็น ขณะเดียวกัน ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากประธานวุฒิสภา และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ขณะที่การเจรจากับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เพราะเข้าใจดีว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลา ซึ่งรัฐบาลก็มีความตั้งใจที่จะสร้างความเข้าใจระหว่างกัน เพียงแต่ช่วงระยะเวลานับจากนี้มีพระราชพิธีหลายงาน จึงอยากให้พันธมิตรฯ คำนึงถึงภาพลักษณ์ของประเทศ ทั้งนี้ หากพันธมิตรฯ มีการเสนอเงื่อนไขใดๆ ก็ต้องมีการพูดคุยกัน แต่ทุกอย่างต้องรักษากฎหมาย นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การบุกยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว ส่วนความเหมาะสมที่พันธมิตรฯ ควรจะออกจากทำเนียบรัฐบาลก่อนที่จะมีการซักซ้อมพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์นั้น นายกรัฐมนตรี บอกว่า ความจริงแล้วอยากให้พันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันนี้ หากเข้าใจสถานการณ์ในขณะนี้