นายสาธิต รังคสิริ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี กรมสรรพากร และโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2551 ได้เกินเป้าหมาย เป็นเงินจำนวน 66,000 ล้านบาท จากประมาณการจัดเก็บภาษีไว้ที่ 1,200,000 ล้านบาท ซึ่งเงินภาษีที่จัดเก็บได้ถึงร้อยละ 50 เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม รองลงเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามลำดับ
สำหรับการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2552 ได้ตั้งประมาณการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ของประมาณการจัดเก็บภาษี ปีงบประมาณ 2551 อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยการขยายช่วงการยกเว้นภาษีเพิ่มขึ้น และรัฐบาลออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เมื่อเดือนมีนาคม 2551 ที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล ในปีงบประมาณ 2552 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเชื่อว่าการจัดเก็บภาษีเงินได้ของกรมสรรพากรในปีงบประมาณ 2552 จะสามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้าประมาณการที่ตั้งไว้
สำหรับการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2552 ได้ตั้งประมาณการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ของประมาณการจัดเก็บภาษี ปีงบประมาณ 2551 อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยการขยายช่วงการยกเว้นภาษีเพิ่มขึ้น และรัฐบาลออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เมื่อเดือนมีนาคม 2551 ที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล ในปีงบประมาณ 2552 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเชื่อว่าการจัดเก็บภาษีเงินได้ของกรมสรรพากรในปีงบประมาณ 2552 จะสามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้าประมาณการที่ตั้งไว้
