นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า หลังจากปัญหาการเมืองมีความยืดเยื้ออย่างต่อเนื่องและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จึงต้องปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2551 แม้จะเติบโตสูงกว่าปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 4.8 ต่อปี แต่ต้องปรับประมาณการให้เหลือร้อยละ 5.1 ต่อปี จากเดิมในช่วงเดือนมิถุนายน 2551 คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 5.6 ต่อปี เนื่องจากการใช้จ่ายภายในประเทศฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม เพราะคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนในปี 2551 จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 และ 5.0 ต่อปีตามลำดับ ซึ่งเป็นการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ร้อยละ 3.5 และ 8.5 ต่อปี เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและความไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลให้ผู้บริโภคและนักลงทุนชะลอการจับจ่ายใช้สอยและชะลอการตัดสินใจลงทุน
สำหรับปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2551 คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ในระดับสูงที่ร้อยละ 7.8 ต่อปี จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 8.0 ต่อปี เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้ามากกว่าคาดการณ์และบริการด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงและการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าสินค้าและบริการคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 9.6 ต่อปี ลดลงเล็กน้อยจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 9.7 ต่อปี ตามอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัวช้ากว่าเดิม
สำหรับปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2551 คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ในระดับสูงที่ร้อยละ 7.8 ต่อปี จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 8.0 ต่อปี เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้ามากกว่าคาดการณ์และบริการด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงและการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าสินค้าและบริการคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 9.6 ต่อปี ลดลงเล็กน้อยจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 9.7 ต่อปี ตามอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัวช้ากว่าเดิม
