พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงรายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เนื่องจากว่า ทหารไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์การเมืองได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดวินัย แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ผู้ที่เข้ามาทำงานในแต่ละกระทรวงคงจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด แต่ทั้งนี้จะสามารถปฏิบัติงานได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับหลายๆ องค์ประกอบเช่นเดียวกัน ขณะที่นายกรัฐมนตีรควบตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม ด้วยนั้นคงไม่น่าจะมีปัญหา และไม่น่าเป็นห่วงเพราะกองทัพมีผู้บัญชาการเหล่าทัพคอยดูแลอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ขอฝากให้รัฐมนตรีกลาโหมช่วยดูแลและให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารให้ดีด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังคงปักหลักชุมนุมด้วย คงจะต้องติดตามดูสถานการณ์ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามอยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้พิจารณา
ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่มี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีว่าคงจะต้องให้เวลากับรัฐบาลชุดนี้ได้ทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าประเทศไทยไม่เคยล่มจมแต่อาจจะมีการชะงักงันบ้าง ซึ่งเห็นว่าประเทศไทยยังมีความสามารถในการพัฒนาและเติบโตได้อีก ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วยนั้นเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะรัฐมนตรีจะทำงานกำกับในเชิงนโยบายซึ่งจะต้องให้เกียรติกับรัฐมนตรีรวมไปถึงต้องให้เวลาได้บริหารงาน
นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารอากาศกล่าวด้วยว่าสำหรับข้อห่วงใยในภาคธุรกิจที่ไม่ค่อยไว้วางใจในการบริหารงานของ นายสุชาติ ธาดาธำรงเดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง นั้นส่วนตัวเห็นว่า คนรุ่นใหม่มีแนวทางในการทำงานแบบสมัยใหม่ หากมีทีมงานที่ปรึกษาที่ดีและรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่มีประสบการณ์อื่นๆ เชื่อว่าจะสามารถนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญได้
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังคงปักหลักชุมนุมด้วย คงจะต้องติดตามดูสถานการณ์ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามอยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้พิจารณา
ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่มี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีว่าคงจะต้องให้เวลากับรัฐบาลชุดนี้ได้ทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าประเทศไทยไม่เคยล่มจมแต่อาจจะมีการชะงักงันบ้าง ซึ่งเห็นว่าประเทศไทยยังมีความสามารถในการพัฒนาและเติบโตได้อีก ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วยนั้นเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะรัฐมนตรีจะทำงานกำกับในเชิงนโยบายซึ่งจะต้องให้เกียรติกับรัฐมนตรีรวมไปถึงต้องให้เวลาได้บริหารงาน
นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารอากาศกล่าวด้วยว่าสำหรับข้อห่วงใยในภาคธุรกิจที่ไม่ค่อยไว้วางใจในการบริหารงานของ นายสุชาติ ธาดาธำรงเดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง นั้นส่วนตัวเห็นว่า คนรุ่นใหม่มีแนวทางในการทำงานแบบสมัยใหม่ หากมีทีมงานที่ปรึกษาที่ดีและรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่มีประสบการณ์อื่นๆ เชื่อว่าจะสามารถนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญได้