นายมนตรี คงตระกูลเทียน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) เปิดเผยว่า ไทยจำเป็นต้องขยายพื้นที่เพาะปลูกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน เพราะไทยมีพื้นที่เพาะปลูกเพียง 130 ล้านไร่ และส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เพาะปลูกพืชพลังงานทดแทน โดยการลงทุนแบบนี้ กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านจะได้รับผลประโยชน์ด้านเทคโนโลยีและเงินทุน และแม้ในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจนี้จะเกิดปัญหาด้านกฎหมาย แต่ได้แก้ไขแล้ว ส่วนประเทศที่มีโอกาสในการลงทุนมากคือ จีน เพราะมีประชากรจำนวนมาก แต่กฎระเบียบที่แตกต่างกันในแต่ละมณฑลยังคงเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน
กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวอีกว่า แม้ในภาพรวมของไทยจะขาดดุลการค้ากับจีน แต่ไทยยังมีสินค้าที่เกินดุลการค้า เช่น มันสำปะหลัง เพราะจีนนำเข้าเพื่อใช้ผลิตแอลกอฮอล์ สุรา และเอทานอล จำนวนมาก ขณะที่เวียดนามมีกฎระเบียบภายในประเทศที่เอื้ออำนวยต่อนักลงทุนต่างประเทศ เช่น มาตรการยกเว้นภาษี ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม ที่ต้องการจะเป็นประเทศผู้นำด้านอุตสาหกรรมอาหารในปี 2563
กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวอีกว่า แม้ในภาพรวมของไทยจะขาดดุลการค้ากับจีน แต่ไทยยังมีสินค้าที่เกินดุลการค้า เช่น มันสำปะหลัง เพราะจีนนำเข้าเพื่อใช้ผลิตแอลกอฮอล์ สุรา และเอทานอล จำนวนมาก ขณะที่เวียดนามมีกฎระเบียบภายในประเทศที่เอื้ออำนวยต่อนักลงทุนต่างประเทศ เช่น มาตรการยกเว้นภาษี ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม ที่ต้องการจะเป็นประเทศผู้นำด้านอุตสาหกรรมอาหารในปี 2563
