นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ในช่วงขาลง และมีแนวโน้มลดลงอีก ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง 50 สตางค์ต่อลิตรวันพรุ่งนี้(17 ก.ย.) และมีโอกาสปรับลดลงอีก เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจของโลกชะลอตัวลง ประกอบกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาทำให้เป็นตัวฉุดราคาน้ำมันร่วงลงอย่างรุนแรง จนทำให้ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงพลังงาน จะยังไม่มีการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติมอีก เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ เช่นเดียวกับโครงสร้างราคาแอลพีจีในภาคการขนส่ง และภาคอุตสาหกรรมก็ต้องรอความชัดเจนทางการเมืองก่อน ถึงจะสามารถพิจารณาราคาที่เหมาะสมได้
อย่างไรก็ตาม ปตท.คงต้องแบกรับภาระต้นทุนการนำเข้าแอลพีจีต่อไปก่อนกว่า 4,000 ล้านบาท จนกว่าจะสรรหานายกรัฐมนตรีออกมาชัดเจน และนับว่าเป็นข่าวดีของประชาชนผู้ใช้แอลพีจีที่ขณะนี้ราคาแอลพีจีในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันที่อ่อนตัวมาอยู่ที่ระดับ 816 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากเดิมมีราคาสูงกว่า 900 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ปตท.คงต้องแบกรับภาระต้นทุนการนำเข้าแอลพีจีต่อไปก่อนกว่า 4,000 ล้านบาท จนกว่าจะสรรหานายกรัฐมนตรีออกมาชัดเจน และนับว่าเป็นข่าวดีของประชาชนผู้ใช้แอลพีจีที่ขณะนี้ราคาแอลพีจีในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันที่อ่อนตัวมาอยู่ที่ระดับ 816 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากเดิมมีราคาสูงกว่า 900 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล