นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สาเหตุที่การประชุมสภาล่ม ไม่ใช่ความผิดของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไม่ได้เล่นเกมการเมือง เพื่อชิงไหวชิงพริบ เพราะก่อนหน้านี้ ส.ส.ของพรรคได้ให้ความเห็นมาโดยตลอด ว่าการบรรจุระเบียบวาระเลือกนายกรัฐมนตรีเร่งด่วนภายใน 3 วันนั้น ทำให้สมาชิกสภาไม่ได้มีการหารือกันอย่างกว้างขวาง โดยรัฐบาลกลับอ้างว่าต้องรีบเลือกอย่างเร่งด่วน เพราะประเทศขาดนายกรัฐมนตรีไม่ได้ แต่เมื่อถึงเวลาประชุมกลับไม่สามารถที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีได้ โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรก็เลื่อนไปอีก 5 วัน ทั้งๆ ที่เป็นปัญหาภายในของพรรคพลังประชาชนเอง
ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ตอนจะเลือกนายกรัฐมนตรีมีการร้องแลกแหกกระเชิงว่าทำเพื่อชาติ แต่พอถึงวันเลือก กลับมาเลื่อน โดยที่ประธานรู้เห็นเป็นใจตั้งแต่แรก และยังปล่อยให้บุคคลที่ไม่ได้อยู่ในองค์ประชุม คือ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชนได้อภิปราย แถมยังรวบรัดปิดประชุมสภาฯ และจะเห็นได้ว่ามี ส.ส.พรรคพลังประชาชนส่วนใหญ่เข้ามาในห้องประชุม แต่ไม่ได้มีการเสียบบัตรแสดงตน จึงทำให้องค์ประชุมไม่ครบ
ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ตอนจะเลือกนายกรัฐมนตรีมีการร้องแลกแหกกระเชิงว่าทำเพื่อชาติ แต่พอถึงวันเลือก กลับมาเลื่อน โดยที่ประธานรู้เห็นเป็นใจตั้งแต่แรก และยังปล่อยให้บุคคลที่ไม่ได้อยู่ในองค์ประชุม คือ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชนได้อภิปราย แถมยังรวบรัดปิดประชุมสภาฯ และจะเห็นได้ว่ามี ส.ส.พรรคพลังประชาชนส่วนใหญ่เข้ามาในห้องประชุม แต่ไม่ได้มีการเสียบบัตรแสดงตน จึงทำให้องค์ประชุมไม่ครบ