สมาคมพิทักษ์การกระทำทารุณกรรมต่อสัตว์ของอังกฤษ (อาร์เอสพีซีเอ) กล่าวว่า ดีซี น้องเหมียวเพศเมีย วัย 15 ปี ได้พบกับเจ้าของของมันอีกครั้ง หลังหายออกจากบ้านเมื่อปี 1999 ขณะที่สองสามีภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของของดีซีเข้าใจว่าดีซีถูกรถชนตายไปแล้ว
ดีซีถูกพบห่างจากบ้านของมันเองไม่ถึงครึ่งไมล์ หลังมีชาวบ้านคนหนึ่งในเมืองเบอร์มิงแฮมโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ของอาร์เอสพีซีเอให้มารับเจ้าดีซี ซึ่งทั้งผอมและกระเซอะกระเซิง ขณะเร่ร่อนอยู่ในละแวกดังกล่าวมานาน 2-3 เดือน
ขณะที่อลัน พิตทาเวย์ เจ้าหน้าที่อาร์เอสพีซีเอ ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมารับตัวเจ้าดีซี ได้ตรวจสอบไมโครชิพที่ฝังอยู่ในตัวของเจ้าเหมียว ก่อนที่จะพาดีซีไปส่งคืนให้กับอลัน และกิลลี เดลานีย์ โดยใช้เวลาเดินทางไปที่บ้านของสองสามีภรรยาเพียงครึ่งชั่วโมง
“ตลอดเวลา 29 ปีที่ทำงานให้กับอาร์เอสพีซีเอ ผมยังไม่เคยเห็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงคนไหนตื่นเต้นดีใจมากเท่านี้มาก่อน มันทำให้วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากทีเดียว” พิตทาเวย์กล่าวถึงกิลลี ซึ่งเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่หลังได้เห็นหน้าเจ้าดีซีอีกครั้ง
ขณะที่กิลลี กล่าวว่า ทั้งนิสัยและหน้าตาของเจ้าดีซีไม่ได้เปลี่ยนไปเลย และจนถึงตอนนี้เจ้าเหมียวก็ยังไม่ยอมหยุดครางหลังรู้ว่าได้กลับบ้านอีกครั้ง
ทั้งนี้อาร์เอสพีซีเอ หวังว่า เรื่องราวการกลับสู่อ้อมกอดของเจ้าดีซีในครั้งนี้ จะกระตุ้นให้เจ้าของนำสัตว์เลี้ยงไปฝังไมโครชิพมากขึ้นในอนาคต
ดีซีถูกพบห่างจากบ้านของมันเองไม่ถึงครึ่งไมล์ หลังมีชาวบ้านคนหนึ่งในเมืองเบอร์มิงแฮมโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ของอาร์เอสพีซีเอให้มารับเจ้าดีซี ซึ่งทั้งผอมและกระเซอะกระเซิง ขณะเร่ร่อนอยู่ในละแวกดังกล่าวมานาน 2-3 เดือน
ขณะที่อลัน พิตทาเวย์ เจ้าหน้าที่อาร์เอสพีซีเอ ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมารับตัวเจ้าดีซี ได้ตรวจสอบไมโครชิพที่ฝังอยู่ในตัวของเจ้าเหมียว ก่อนที่จะพาดีซีไปส่งคืนให้กับอลัน และกิลลี เดลานีย์ โดยใช้เวลาเดินทางไปที่บ้านของสองสามีภรรยาเพียงครึ่งชั่วโมง
“ตลอดเวลา 29 ปีที่ทำงานให้กับอาร์เอสพีซีเอ ผมยังไม่เคยเห็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงคนไหนตื่นเต้นดีใจมากเท่านี้มาก่อน มันทำให้วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากทีเดียว” พิตทาเวย์กล่าวถึงกิลลี ซึ่งเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่หลังได้เห็นหน้าเจ้าดีซีอีกครั้ง
ขณะที่กิลลี กล่าวว่า ทั้งนิสัยและหน้าตาของเจ้าดีซีไม่ได้เปลี่ยนไปเลย และจนถึงตอนนี้เจ้าเหมียวก็ยังไม่ยอมหยุดครางหลังรู้ว่าได้กลับบ้านอีกครั้ง
ทั้งนี้อาร์เอสพีซีเอ หวังว่า เรื่องราวการกลับสู่อ้อมกอดของเจ้าดีซีในครั้งนี้ จะกระตุ้นให้เจ้าของนำสัตว์เลี้ยงไปฝังไมโครชิพมากขึ้นในอนาคต
