นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาคุณสมบัติในคดีชิมไปบ่นไป ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นั้นเชื่อว่า จะช่วยทำให้สถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ น่าจะคลี่คลายขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนน่าจะดีขึ้น แต่ขณะนี้นักธุรกิจนักลงทุนกำลังรอดูว่า ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และนักธุรกิจส่วนใหญ่กังวลว่าหากพรรคพลังประชาชนยังเสนอชื่อนายสมัครกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ปัญหาที่ยืดเยื้ออยู่จะกลับมาเหมือนเดิม จึงต้องติดตามดูว่าพรรคพลังประชาชนจะเสนอใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี
นายสมภพ มานะรังสรรค์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ถือว่าเป็นแนวทางการปลดล็อกปัญหาที่ไม่ค่อยมีโอกาสเช่นนี้ ดังนั้น ควรฉวยโอกาสนี้แก้ปัญหาสถานการณ์ให้ดีที่สุด และการตัดสินให้นายสมัครออกจากตำแหน่งได้ จะเป็นการผ่อนคลานสถานการณ์ให้ดีขึ้น แต่จากนี้ไปคงต้องดูการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่และการปรับคณะรัฐมนตรี หากพรรคพลังประชาชนยังยืนยันเสนอให้นายสมัครกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ปัญหาจะบานปลายขยายความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก และจะเป็นเหตุการณ์ที่อยากแก่การควบคุม และยิ่งจะทำให้นักลงทุน นักธุรกิจ ต่างประเทศมองว่า คนไทยไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และมองว่าการเมืองไทยไม่มีการลดราวาศอก ทำให้ปัญหาไม่คลี่คลายไปได้
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าจะทำให้สถานการณ์การเมืองเริ่มคลี่คลาย และอยากเห็นให้มีการประกาศยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะเป็นการคืนอำนาจให้กับประชาชน ส่วนกระแสข่าวที่จะให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่นั้น ถือเป็นเรื่องไม่ชอบธรรม เพราะขณะนี้เป็นบุคคลที่มีคดีความ ไม่มีจรรยาบรรณ และไม่มีความเหมาะสมเพียงพอในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป จึงอยากให้ทุกฝ่ายไม่ควรดันทุรัง เพราะจะทำให้สถานการณ์การเมืองกลับมาเลวร้ายอีก
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ทุกฝ่ายจะต้องมีการยอมรับโดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะขณะนี้นายสมัคร ไม่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว จึงอยากให้พันธมิตรฯ หยุดการชุมนุมและกลับบ้าน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป ส่วนหากมีเลือกตั้งใหม่ ใครจะกลับมาทุกฝ่ายต้องน้อมรับ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งนี้ หลังจากศาลมีคำสั่งให้นายสมัคร หยุดปฏิบัติภารกิจ เชื่อว่าบรรยากาศการท่องเที่ยว ตลาดหุ้นจะกลับมาดี รวมถึงความเชื่อมั่นจากต่างชาติก็จะกลับมาลงทุนดำเนินทางธุรกิจต่อไป
นายสมภพ มานะรังสรรค์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ถือว่าเป็นแนวทางการปลดล็อกปัญหาที่ไม่ค่อยมีโอกาสเช่นนี้ ดังนั้น ควรฉวยโอกาสนี้แก้ปัญหาสถานการณ์ให้ดีที่สุด และการตัดสินให้นายสมัครออกจากตำแหน่งได้ จะเป็นการผ่อนคลานสถานการณ์ให้ดีขึ้น แต่จากนี้ไปคงต้องดูการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่และการปรับคณะรัฐมนตรี หากพรรคพลังประชาชนยังยืนยันเสนอให้นายสมัครกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ปัญหาจะบานปลายขยายความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก และจะเป็นเหตุการณ์ที่อยากแก่การควบคุม และยิ่งจะทำให้นักลงทุน นักธุรกิจ ต่างประเทศมองว่า คนไทยไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และมองว่าการเมืองไทยไม่มีการลดราวาศอก ทำให้ปัญหาไม่คลี่คลายไปได้
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าจะทำให้สถานการณ์การเมืองเริ่มคลี่คลาย และอยากเห็นให้มีการประกาศยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะเป็นการคืนอำนาจให้กับประชาชน ส่วนกระแสข่าวที่จะให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่นั้น ถือเป็นเรื่องไม่ชอบธรรม เพราะขณะนี้เป็นบุคคลที่มีคดีความ ไม่มีจรรยาบรรณ และไม่มีความเหมาะสมเพียงพอในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป จึงอยากให้ทุกฝ่ายไม่ควรดันทุรัง เพราะจะทำให้สถานการณ์การเมืองกลับมาเลวร้ายอีก
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ทุกฝ่ายจะต้องมีการยอมรับโดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะขณะนี้นายสมัคร ไม่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว จึงอยากให้พันธมิตรฯ หยุดการชุมนุมและกลับบ้าน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป ส่วนหากมีเลือกตั้งใหม่ ใครจะกลับมาทุกฝ่ายต้องน้อมรับ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งนี้ หลังจากศาลมีคำสั่งให้นายสมัคร หยุดปฏิบัติภารกิจ เชื่อว่าบรรยากาศการท่องเที่ยว ตลาดหุ้นจะกลับมาดี รวมถึงความเชื่อมั่นจากต่างชาติก็จะกลับมาลงทุนดำเนินทางธุรกิจต่อไป
