กรมทรัพยากรน้ำนำสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อดูแนวผันน้ำในโครงการผันน้ำงึม ห้วยหลวง หนองหาน กุมภวาปี ลำปาว แม่น้ำชี หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติในวงเงิน 76,000 ล้านบาท โดยให้ใช้เงินกู้จากต่างประเทศ และอนุมัติสำรวจออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยใช้เงินงบประมาณ
นายศิริพงศ์ หังสพฤกษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า โครงการระยะที่ 1 ใช้งบประมาณ 32,000 ล้านบาท ผันน้ำจากลุ่มน้ำห้วยหลวง ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงในอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ข้ามมายังหนองหานกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ในลุ่มน้ำชี ส่งต่อไปยังเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ คาดว่าจะผันน้ำได้ประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที
ส่วนโครงการระยะที่ 2 จะเริ่มปีหน้า เพราะต้องเจรจากับลาว เพื่อทำฝายทดน้ำจากปากน้ำงึม ผ่านอุโมงค์ผันน้ำลอดใต้แม่น้ำโขง เข้ามาสู่ลำห้วยหลวง และกระจายน้ำไปตามแนวปันน้ำของระยะที่ 1 จะสามารถผันน้ำได้ 1,978 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี คาดว่ามีประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ 500,000 ครัวเรือน เพิ่มพื้นที่ชลประทาน 3,200,000 ไร่
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ยืนยันว่า โครงการนี้ไม่ต้องศึกษาผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ได้มีการก่อสร้างขนาดใหญ่ แต่ใช้สิ่งก่อสร้างเดิมที่มีอยู่แล้ว ส่วนการสร้างอุโมงค์ลอดแม่น้ำโขง ก็ไม่กระทบกับการเกิดบั้งไฟพญานาค เพราะอุโมงค์อยู่ลึกถึง 23 เมตร และได้มีการเจาะสำรวจแล้วเป็นชั้นหินทราย ที่ไม่มีการก่อตัวของสารที่ทำให้เกิดบั้งไฟพญานาคแต่อย่างใด
นายศิริพงศ์ หังสพฤกษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า โครงการระยะที่ 1 ใช้งบประมาณ 32,000 ล้านบาท ผันน้ำจากลุ่มน้ำห้วยหลวง ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงในอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ข้ามมายังหนองหานกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ในลุ่มน้ำชี ส่งต่อไปยังเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ คาดว่าจะผันน้ำได้ประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที
ส่วนโครงการระยะที่ 2 จะเริ่มปีหน้า เพราะต้องเจรจากับลาว เพื่อทำฝายทดน้ำจากปากน้ำงึม ผ่านอุโมงค์ผันน้ำลอดใต้แม่น้ำโขง เข้ามาสู่ลำห้วยหลวง และกระจายน้ำไปตามแนวปันน้ำของระยะที่ 1 จะสามารถผันน้ำได้ 1,978 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี คาดว่ามีประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ 500,000 ครัวเรือน เพิ่มพื้นที่ชลประทาน 3,200,000 ไร่
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ยืนยันว่า โครงการนี้ไม่ต้องศึกษาผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ได้มีการก่อสร้างขนาดใหญ่ แต่ใช้สิ่งก่อสร้างเดิมที่มีอยู่แล้ว ส่วนการสร้างอุโมงค์ลอดแม่น้ำโขง ก็ไม่กระทบกับการเกิดบั้งไฟพญานาค เพราะอุโมงค์อยู่ลึกถึง 23 เมตร และได้มีการเจาะสำรวจแล้วเป็นชั้นหินทราย ที่ไม่มีการก่อตัวของสารที่ทำให้เกิดบั้งไฟพญานาคแต่อย่างใด
