นายจอห์น แมคเคน ตอบรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
นายแมคเคน เริ่มการกล่าวสุนทรพจน์ว่า ยอมรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคด้วยความยินดี นอบน้อมและเชื่อมั่น พร้อมกับขอเตือนรัฐบาลกลางในวอชิงตันที่มือเติบ ไม่ทำอะไร นึกถึงตัวเองก่อนประเทศชาติว่า ความเปลี่ยนแปลงกำลังมา แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็ถูกกลุ่มผู้ต่อต้านสงครามที่กระจายตัวเล็ดลอดเข้ามาในที่ประชุมพยายามตะโกนขัดขวาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องนำตัวออกไป ขณะที่คนส่วนใหญ่ในที่ประชุมตะโกนคำว่า "สหรัฐฯ สหรัฐฯ"
นายแมคเคน วัย 72 ปี ยกความแตกต่างด้านประสบการณ์การทำงานที่มากกว่านายบารัก โอบามา คู่แข่งด้วยการคุยว่า เขาใช้เวลาหลายทศวรรษทำงานโดยไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมืองเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ และมีแผลเป็นจากสงครามเวียดนามเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความรักชาติ เขาจะใช้แนวทางนี้บริหารประเทศในฐานะประธานาธิบดีและพร้อมเปิดรับทุกคนที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศอีกครั้ง นายแมคเคน ยกย่องนางซราห์ พาลิน ผู้สมัครคู่ ว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะช่วยนำมาความเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศชาติ และยกย่องประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ว่า นำพาประเทศในช่วงที่มืดมนหลังเกิดเหตุโจมตีสหรัฐฯ ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ และปกป้องชาวอเมริกันให้ปลอดภัยจากการโจมตีครั้งใหม่
นายแมคเคน เริ่มการกล่าวสุนทรพจน์ว่า ยอมรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคด้วยความยินดี นอบน้อมและเชื่อมั่น พร้อมกับขอเตือนรัฐบาลกลางในวอชิงตันที่มือเติบ ไม่ทำอะไร นึกถึงตัวเองก่อนประเทศชาติว่า ความเปลี่ยนแปลงกำลังมา แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็ถูกกลุ่มผู้ต่อต้านสงครามที่กระจายตัวเล็ดลอดเข้ามาในที่ประชุมพยายามตะโกนขัดขวาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องนำตัวออกไป ขณะที่คนส่วนใหญ่ในที่ประชุมตะโกนคำว่า "สหรัฐฯ สหรัฐฯ"
นายแมคเคน วัย 72 ปี ยกความแตกต่างด้านประสบการณ์การทำงานที่มากกว่านายบารัก โอบามา คู่แข่งด้วยการคุยว่า เขาใช้เวลาหลายทศวรรษทำงานโดยไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมืองเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ และมีแผลเป็นจากสงครามเวียดนามเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความรักชาติ เขาจะใช้แนวทางนี้บริหารประเทศในฐานะประธานาธิบดีและพร้อมเปิดรับทุกคนที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศอีกครั้ง นายแมคเคน ยกย่องนางซราห์ พาลิน ผู้สมัครคู่ ว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะช่วยนำมาความเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศชาติ และยกย่องประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ว่า นำพาประเทศในช่วงที่มืดมนหลังเกิดเหตุโจมตีสหรัฐฯ ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ และปกป้องชาวอเมริกันให้ปลอดภัยจากการโจมตีครั้งใหม่