อาจารย์และนักศึกษาด้านสื่อสารมวลชน จากคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยพายัพ ได้ร่วมกันจัดการเสวนา เรื่อง "บทบาทสื่อมวลชนในสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง" เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกำหนดท่าทีของสื่อมวลชนในด้านของการเสนอข่าว
นายศรีธรณ์ โรจนสุพจน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ กล่าวว่า ต้องการให้สื่อมวลชนวางตัวเป็นกลาง เพราะที่ผ่านมามีการแบ่งข้าง และถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกระดมจนเกิดการประท้วงขึ้น
ขณะที่นายวิทยา ดำรงเกียรติศักดิ์ คณบดีคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการประกาศใช้พระราชกำหนดฉุกเฉิน และสื่อมวลชนมีหน้าที่ที่จะสะท้อนความจริงให้กับสังคมรับรู้ แต่ต้องไม่สร้างแรงยั่วยุให้เกิดความแตกแยก
ส่วน ดร.จิราพร วิทยศักดิ์พันธุ์ รองคณบดีคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า สื่อมวลชนที่นำบุคคลมาแสดงความคิดเห็นนั้นจะต้องคัดเลือกผู้ที่เป็นกลาง ไม่เอนเอียงหรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
การเสวนาในครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่า ภาครัฐไม่ควรใช้สื่อมวลชนโจมตีฝ่ายตรงข้าม เพราะจะเป็นการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ขณะที่สื่อมวลชนก็ต้องทำหน้าที่เสนอข่าวอย่างเป็นกลาง และรอบด้าน เพื่อลดความขัดแย้ง
นายศรีธรณ์ โรจนสุพจน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ กล่าวว่า ต้องการให้สื่อมวลชนวางตัวเป็นกลาง เพราะที่ผ่านมามีการแบ่งข้าง และถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกระดมจนเกิดการประท้วงขึ้น
ขณะที่นายวิทยา ดำรงเกียรติศักดิ์ คณบดีคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการประกาศใช้พระราชกำหนดฉุกเฉิน และสื่อมวลชนมีหน้าที่ที่จะสะท้อนความจริงให้กับสังคมรับรู้ แต่ต้องไม่สร้างแรงยั่วยุให้เกิดความแตกแยก
ส่วน ดร.จิราพร วิทยศักดิ์พันธุ์ รองคณบดีคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า สื่อมวลชนที่นำบุคคลมาแสดงความคิดเห็นนั้นจะต้องคัดเลือกผู้ที่เป็นกลาง ไม่เอนเอียงหรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
การเสวนาในครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่า ภาครัฐไม่ควรใช้สื่อมวลชนโจมตีฝ่ายตรงข้าม เพราะจะเป็นการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ขณะที่สื่อมวลชนก็ต้องทำหน้าที่เสนอข่าวอย่างเป็นกลาง และรอบด้าน เพื่อลดความขัดแย้ง
