นายอุดม งามเมืองสกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ เห็นด้วยที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังเกิดการปะทะกันระหว่างแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กับกลุ่มพันธมิตรฯ เนื่องจากสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น แม้ว่าการออกพระราชกำหนดจะกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งหากมีทหารเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งต่างประเทศถือเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ประชาชนเกิดความตระหนก เพราะแม้จะให้อำนาจผู้บัญชาการทหารบกแต่ไม่ได้หมายถึงการใช้ความรุนแรงควบคุมสถานการณ์ เพียงแต่จะเป็นการใช้กฎหมาย ซึ่งชัดเจนมากขึ้น เช่น การห้ามชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป แต่ไม่ได้หมายความว่าประชาชนจะอยู่กันเกิน 5 คนไม่ได้ ในการที่สื่อจะต้องระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้นแต่ไม่ได้ห้ามเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น
อย่างไรก็ตามเห็นว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมยังยืนยันที่จะชุมนุมต่อไปแม้จะมีการออกพระราชกำหนดเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงและจะไม่ส่งผลดีต่อระบอบประชาธิปไตยในระยะยาวที่คนต้องเคารพกฎหมายและอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตามเห็นว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมยังยืนยันที่จะชุมนุมต่อไปแม้จะมีการออกพระราชกำหนดเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงและจะไม่ส่งผลดีต่อระบอบประชาธิปไตยในระยะยาวที่คนต้องเคารพกฎหมายและอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ