นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการลาหยุดงานของพนักงานหัวรถจักรและพนักงานขับรถไฟ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินรถจนต้องหยุดเดินรถในหลายขบวนทั่วประเทศ ว่า ผลกระทบดังกล่าวทำให้เหลือรถไฟที่สามารถเดินรถได้ตามปกติแค่ 129 ขบวน จากจำนวนรถที่ รฟท.ให้บริการแต่ละวันทั้งหมด 244 ขบวน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้ติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าในการเดินรถ โดยจะพยายามให้พนักงานขับที่มีสำนึกในการให้บริการประชาชนกลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนมากขึ้น เพราะการรถไฟฯ มีหน้าที่ให้บริการประชาชนในการเดินทาง ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองซึ่งส่งผลกระทบต่อการให้บริการ
ผู้ว่าฯ รฟท. ยืนยันว่า ตนจะพยายามทำให้รถไฟสามารถเปิดให้บริการกับประชาชนให้มากขึ้นจนเป็นปกติ และในส่วนของสมาชิกสหภาพหรือพนักงานขับก็ไม่ได้ต้องการหยุดงานเพื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่บางส่วนถูกบีบจากคนส่วนใหญ่ของสหภาพฯ จึงต้องหยุดงานไปตามกัน ดังนั้น ตนในฐานะฐานะผู้ว่าการการรถไฟฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องทางการเมือง ต้องพยายามดึงคนเหล่านี้กลับมาทำงานและไม่ควรฝักใฝ่ฝ่ายใด
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมคณะกรรมการการรถไฟฯ จะมีการหยิบประเด็นเรื่องการหยุดเดินรถของพนักงานขับและผลกระทบรายได้จากการหยุดเดินรถในช่วงที่ผ่านมามาหารือ อย่างไรก็ตาม สำหรับผลกระทบของการลางานจนต้องหยุดเดินรถ ส่งผลให้ รฟท.ต้องเสียรายได้รวมกว่า 60 ล้านบาทแล้ว
ผู้ว่าฯ รฟท. ยืนยันว่า ตนจะพยายามทำให้รถไฟสามารถเปิดให้บริการกับประชาชนให้มากขึ้นจนเป็นปกติ และในส่วนของสมาชิกสหภาพหรือพนักงานขับก็ไม่ได้ต้องการหยุดงานเพื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่บางส่วนถูกบีบจากคนส่วนใหญ่ของสหภาพฯ จึงต้องหยุดงานไปตามกัน ดังนั้น ตนในฐานะฐานะผู้ว่าการการรถไฟฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องทางการเมือง ต้องพยายามดึงคนเหล่านี้กลับมาทำงานและไม่ควรฝักใฝ่ฝ่ายใด
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมคณะกรรมการการรถไฟฯ จะมีการหยิบประเด็นเรื่องการหยุดเดินรถของพนักงานขับและผลกระทบรายได้จากการหยุดเดินรถในช่วงที่ผ่านมามาหารือ อย่างไรก็ตาม สำหรับผลกระทบของการลางานจนต้องหยุดเดินรถ ส่งผลให้ รฟท.ต้องเสียรายได้รวมกว่า 60 ล้านบาทแล้ว