เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวกับเอเอฟพีว่า สหรัฐฯ ต้องการเห็นวิกฤติทางการเมืองของไทยได้รับการแก้ไขด้วยวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย หลังเกิดเหตุการณ์ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันศุกร์ (29)
เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ กำลังจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองในไทยอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าความแตกต่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้ควรได้รับการแก้ไขโดยสถาบันในระบอบประชาธิปไตย
เอเอฟพี รายงานด้วยว่า เมื่อวันศุกร์ (29) ที่ผ่านมา ได้เกิดการปะทะระหว่างตำรวจกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกว่า 25,000 คนที่ปักหลักชุมนุมประท้วงอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช หุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ย้ำว่า วิถีทางตามระบอบรัฐสภาไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา และการประท้วงเป็นหนทางเดียวที่วิกฤติทางการเมืองของไทยจะได้รับการแก้ไข
อย่างไรก็ตามขณะที่สถานการณ์ทวีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (29) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้ออกมายืนยันว่า ทหารจะไม่เข้าแทรกแซงสถานการณ์ เว้นแต่ว่าจะได้รับการร้องขอ
“จะไม่มีการทำรัฐประหาร การทำรัฐประหารไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา และผมมั่นใจว่าตำรวจจะสามารถดูแลสถานการณ์ในขณะนี้ได้” ผบ.ทบ.ของไทยกล่าว
ทั้งนี้เอเอฟพี รายงานในตอนท้ายด้วยว่า กลุ่มอำนาจเก่าในกองทัพ และสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยไม่พอใจรัฐบาลของนายสมัครที่มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และได้ออกมาคัดค้านแผนการของนายสมัครในการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งร่างขึ้นโดยทหารหลังการก่อรัฐประหารเมื่อปี 2006
เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ กำลังจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองในไทยอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าความแตกต่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้ควรได้รับการแก้ไขโดยสถาบันในระบอบประชาธิปไตย
เอเอฟพี รายงานด้วยว่า เมื่อวันศุกร์ (29) ที่ผ่านมา ได้เกิดการปะทะระหว่างตำรวจกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกว่า 25,000 คนที่ปักหลักชุมนุมประท้วงอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช หุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ย้ำว่า วิถีทางตามระบอบรัฐสภาไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา และการประท้วงเป็นหนทางเดียวที่วิกฤติทางการเมืองของไทยจะได้รับการแก้ไข
อย่างไรก็ตามขณะที่สถานการณ์ทวีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (29) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้ออกมายืนยันว่า ทหารจะไม่เข้าแทรกแซงสถานการณ์ เว้นแต่ว่าจะได้รับการร้องขอ
“จะไม่มีการทำรัฐประหาร การทำรัฐประหารไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา และผมมั่นใจว่าตำรวจจะสามารถดูแลสถานการณ์ในขณะนี้ได้” ผบ.ทบ.ของไทยกล่าว
ทั้งนี้เอเอฟพี รายงานในตอนท้ายด้วยว่า กลุ่มอำนาจเก่าในกองทัพ และสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยไม่พอใจรัฐบาลของนายสมัครที่มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และได้ออกมาคัดค้านแผนการของนายสมัครในการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งร่างขึ้นโดยทหารหลังการก่อรัฐประหารเมื่อปี 2006