หลังจากตำรวจนครบาลบุกประชิดจนสามารถเข้ายึดพื้นที่บริเวณด้านฝั่งตึกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อาคารสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไว้ได้ทั้งหมด โดยกำลังส่วนหนึ่งได้แทรกซึมเข้าไปในตึกสันติไมตรี แต่ไม่สามารถออกทางประตูด้านหน้าได้ เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ร่วมกันปิดกั้นประตูด้านหน้าไว้ และส่วนหนึ่งได้ตั้งแถวเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม ทิ้งระยะห่างไว้ประมาณ 3 เมตร แต่ไม่มีอะไรรุนแรง ด้านผู้ชุมนุม หลังจากมั่นใจว่าตำรวจไม่สลายการชุมนุม ก็เริ่มปักหลักปรับพื้นที่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้าและบริเวณโดยรอบเป็นสถานที่ชุมนุมถาวร โดยมีการกางเต็นท์ ส่วนบนเวทีก็มีการจัดการปราศรัยโจมตีรัฐบาลตามปกติ
อย่างไรก็ตาม มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อ พ.ต.ท.สุรทิน พิพานเมฆินทร์ ส.ส.อุดรธานี จากพรรคพลังประชาชน ที่ระบุว่ามาประชุมวิปรัฐบาล โดยอ้างไม่รู้ว่า ทำเนียบรัฐบาลนั้นถูกกลุ่มพันธมิตรฯ ยึดไว้แล้ว ทำให้เกิดเหตุชุลมุน เมื่อผู้ชุมนุมได้สาดน้ำและขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ จนการ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ ต้องควบคุมตัวออกจากทำเนียบรัฐบาล แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อ พ.ต.ท.สุรทิน พิพานเมฆินทร์ ส.ส.อุดรธานี จากพรรคพลังประชาชน ที่ระบุว่ามาประชุมวิปรัฐบาล โดยอ้างไม่รู้ว่า ทำเนียบรัฐบาลนั้นถูกกลุ่มพันธมิตรฯ ยึดไว้แล้ว ทำให้เกิดเหตุชุลมุน เมื่อผู้ชุมนุมได้สาดน้ำและขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ จนการ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ ต้องควบคุมตัวออกจากทำเนียบรัฐบาล แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด