พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมว่า มีเจตนาป้องกันการแทรกแซงจากภายนอก ในการโยกย้ายนายทหารประจำปี ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา มักมีข้อกล่าวหาว่า มีการล้วงลูกจากฝ่ายการเมือง ทำให้ต้องมีพระราชบัญญัติฉบับนี้ ที่กำหนดให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาโยกย้ายนายทหาร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน และมีปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เป็นกรรมการ
พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ในช่วงปลายปี 2549 ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มีการกล่าวหาว่า มีความพยายามจะปรับเปลี่ยนรายชื่อนายทหาร และเป็นเหตุให้เกิดการยึดอำนาจ ในวันที่ 19 กันยายน 2549 เนื่องจากมีการดึงรายชื่อโยกย้ายนายทหารไว้ รวมถึงข่าวลือว่าจะย้าย พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในขณะนั้น
พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่เคยล้วงลูกหรือปรับเปลี่ยนตามอำเภอใจ เนื่องจากธรรมเนียมปฏิบัติของทหารขณะนั้นจะใช้การหารือพูดคุยกัน จนเป็นที่เข้าใจของผู้บังคับบัญชา และจะให้เกียรติผู้บัญชาการเหล่าทัพในการเสนอปรับย้าย ขณะเดียวกันก็เห็นว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้มีจุดอ่อน เช่นกัน หากผู้บังคับบัญชาใช้ระบบเส้นสายไม่ใช้หลักคุณธรรมในการปรับย้าย ที่อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้
ส่วน พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีเงากระทรวงกลาโหม เชื่อว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้ จะช่วยป้องกันไม่ให้มีการล้วงลูกจากฝ่ายการเมือง ที่ต้องการปรับย้ายเอาคนของตนเข้าไปในตำแหน่งสำคัญเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้น เพราะมีการกำหนดไว้ชัดเจน ให้มีคณะกรรมการพิจารณาปรับย้าย และที่ผ่านมา ก็มีข้อกำหนดของกระทรวงกลาโหมในเรื่องการปรับย้ายลักษณะเช่นนี้อยู่แล้ว การออกเป็นกฎหมายเพื่อให้มีความชัดเจน และเป็นระบบในการพิจารณาปรับย้าย จะทำให้การปรับย้ายเป็นไปด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ขณะเดียวกันกล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา มักมีการกล่าวหาว่ามีการล้วงลูกจากฝ่ายการเมือง
มีรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเรียกประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหารือเรื่องการปรับย้ายนายทหารประจำปี โดยผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ส่งรายชื่อให้ทางสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมแล้ว และจะเป็นครั้งแรกที่ใช้พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม 2551 พิจารณาปรับย้ายนายทหารประจำปี
พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ในช่วงปลายปี 2549 ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มีการกล่าวหาว่า มีความพยายามจะปรับเปลี่ยนรายชื่อนายทหาร และเป็นเหตุให้เกิดการยึดอำนาจ ในวันที่ 19 กันยายน 2549 เนื่องจากมีการดึงรายชื่อโยกย้ายนายทหารไว้ รวมถึงข่าวลือว่าจะย้าย พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในขณะนั้น
พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่เคยล้วงลูกหรือปรับเปลี่ยนตามอำเภอใจ เนื่องจากธรรมเนียมปฏิบัติของทหารขณะนั้นจะใช้การหารือพูดคุยกัน จนเป็นที่เข้าใจของผู้บังคับบัญชา และจะให้เกียรติผู้บัญชาการเหล่าทัพในการเสนอปรับย้าย ขณะเดียวกันก็เห็นว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้มีจุดอ่อน เช่นกัน หากผู้บังคับบัญชาใช้ระบบเส้นสายไม่ใช้หลักคุณธรรมในการปรับย้าย ที่อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้
ส่วน พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีเงากระทรวงกลาโหม เชื่อว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้ จะช่วยป้องกันไม่ให้มีการล้วงลูกจากฝ่ายการเมือง ที่ต้องการปรับย้ายเอาคนของตนเข้าไปในตำแหน่งสำคัญเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้น เพราะมีการกำหนดไว้ชัดเจน ให้มีคณะกรรมการพิจารณาปรับย้าย และที่ผ่านมา ก็มีข้อกำหนดของกระทรวงกลาโหมในเรื่องการปรับย้ายลักษณะเช่นนี้อยู่แล้ว การออกเป็นกฎหมายเพื่อให้มีความชัดเจน และเป็นระบบในการพิจารณาปรับย้าย จะทำให้การปรับย้ายเป็นไปด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ขณะเดียวกันกล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา มักมีการกล่าวหาว่ามีการล้วงลูกจากฝ่ายการเมือง
มีรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเรียกประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหารือเรื่องการปรับย้ายนายทหารประจำปี โดยผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ส่งรายชื่อให้ทางสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมแล้ว และจะเป็นครั้งแรกที่ใช้พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม 2551 พิจารณาปรับย้ายนายทหารประจำปี
