นายสมชาย เสตกรณุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอนแก่น เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2551 โดยรวมขยายตัวในอัตราที่ลดลงจากไตรมาสแรกเล็กน้อย ด้านอุปทานดัชนีรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาพืชผลส่วนใหญ่ยังสูงขึ้น ยกเว้นราคาข้าวเปลือกเหนียวที่ลดลง การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากอุตสาหกรรมน้ำตาล อุตสาหกรรมแป้งมัน และอุตสาหกรรมผลิตเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ผลิตได้เพิ่มขึ้น
ภาคบริการอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากมีเทศกาลวันหยุดหลายวัน ด้านอุปสงค์ การอุปโภคบริโภคภาคประชาชน ปรับตัวดีขึ้น แต่การลงทุนยังชะลอตัว รายได้ภาครัฐบาลจากการจัดเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้นทุกประเภท การค้าขายชายแดนไทย-ลาว และไทย-กัมพูชา ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกวัสดุก่อสร้าง นอกจากนั้น เป็นน้ำมันปิโตรเลียม ยานพาหนะ และส่วนประกอบ
สำหรับภาคการเงิน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 8.8 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ร้อยละ 2.2
ภาคบริการอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากมีเทศกาลวันหยุดหลายวัน ด้านอุปสงค์ การอุปโภคบริโภคภาคประชาชน ปรับตัวดีขึ้น แต่การลงทุนยังชะลอตัว รายได้ภาครัฐบาลจากการจัดเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้นทุกประเภท การค้าขายชายแดนไทย-ลาว และไทย-กัมพูชา ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกวัสดุก่อสร้าง นอกจากนั้น เป็นน้ำมันปิโตรเลียม ยานพาหนะ และส่วนประกอบ
สำหรับภาคการเงิน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 8.8 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ร้อยละ 2.2
