นายชาอูล โมฟาซ รองนายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวที่สถาบันนโยบายตะวันออกใกล้ อันเป็นคลังสมองของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า หากอิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง ก็นับเป็นภัยอันมหันต์ต่ออิสราเอลที่ไม่อาจจะยอมรับได้ พร้อมกันนั้นยังได้ประเมินว่า ภายในปีหน้าอิหร่านจะประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมได้อย่างสมบูรณ์ และในปีถัดไป อิหร่านก็จะประสบความสำเร็จในการผลิตแร่ยูเรเนียมที่สามารถนำไปใช้ทางทหารได้อย่างเต็มความสามารถ ดังนั้น สิ่งที่อิหร่านกระทำอยู่ในขณะนี้ก็คือการเปิดเจรจากับนานาชาติ เพื่อซื้อเวลาไปเรื่อยๆ กระทั่งประสบความสำเร็จในด้านนิวเคลียร์ทางทหารโดยสมบูรณ์
ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำในขณะนี้ ก็คือการเปลี่ยนภาพอิหร่านและขจัดภัยคุกคามจากอิหร่านอย่างทันเวลา ซึ่งเท่าที่ประเมินในขณะนี้ ก็คือความพยายามของนานาชาติที่จะขัดขวางอิหร่านไม่ให้สร้างอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นภารกิจที่แข่งกับเวลานั้น ดูท่าจะไม่ทันเวลาแล้ว และว่า แม้ตนจะสนับสนุนการแก้ปัญหาอิหร่านด้วยวิถีทางการทูต แต่จะไม่มองข้ามวิธีอื่นๆ ซึ่งรวมถึงมาตรการทางทหารด้วย
ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำในขณะนี้ ก็คือการเปลี่ยนภาพอิหร่านและขจัดภัยคุกคามจากอิหร่านอย่างทันเวลา ซึ่งเท่าที่ประเมินในขณะนี้ ก็คือความพยายามของนานาชาติที่จะขัดขวางอิหร่านไม่ให้สร้างอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นภารกิจที่แข่งกับเวลานั้น ดูท่าจะไม่ทันเวลาแล้ว และว่า แม้ตนจะสนับสนุนการแก้ปัญหาอิหร่านด้วยวิถีทางการทูต แต่จะไม่มองข้ามวิธีอื่นๆ ซึ่งรวมถึงมาตรการทางทหารด้วย