พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจกับผลสั่งปรับยุทธวิธีการแก้ปัญหาความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการปรับยุทธวิธีในการปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีความเข้มข้นขึ้น และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้มากขึ้น แต่ก็ยังคงมีคดีอยู่อีกกว่า 5,000 คดี และทุกคดีก็มีความคืบหน้าไปมาก สามารถออกหมายจับไปแล้วกว่า 1,000 คดี
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่คนร้ายก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่รถไฟและประชาชนบนขบวนรถไฟเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานและทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีประมาณกว่า 30 คน ซึ่งได้ออกหมายตามพระราชกำหนดบริหารราชการฉุกเฉินไปแล้วกว่า 15 หมาย และเข้าควบคุมตัวคนร้ายได้แล้วกว่า 10 คน และคนร้ายเสียชีวิตจากการปะทะเจ้าหน้าที่ 2 คน พร้อมยึดอาวุธปืนสงครามได้ 1 กระบอก ปืนพกสั้นอีก 3 กระบอก เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการปรับยุทธวิธีในการปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีความเข้มข้นขึ้น และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้มากขึ้น แต่ก็ยังคงมีคดีอยู่อีกกว่า 5,000 คดี และทุกคดีก็มีความคืบหน้าไปมาก สามารถออกหมายจับไปแล้วกว่า 1,000 คดี
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่คนร้ายก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่รถไฟและประชาชนบนขบวนรถไฟเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานและทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีประมาณกว่า 30 คน ซึ่งได้ออกหมายตามพระราชกำหนดบริหารราชการฉุกเฉินไปแล้วกว่า 15 หมาย และเข้าควบคุมตัวคนร้ายได้แล้วกว่า 10 คน และคนร้ายเสียชีวิตจากการปะทะเจ้าหน้าที่ 2 คน พร้อมยึดอาวุธปืนสงครามได้ 1 กระบอก ปืนพกสั้นอีก 3 กระบอก เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา