วันนี้ (31 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 08.25 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พร้อมครอบครัว รวมทั้งนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน ได้เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีที่คุณหญิงพจมาน นายบรรณพจน์ และนางกาญจนาภา ร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นบริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จำนวน 576 ล้านบาท อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91
สำหรับมาตรการของศาลในการรักษาความสงบเรียบร้อยที่ได้มีการประสานกับหน่วยปราบปรามจลาจล 300 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาดูแลความเรียบร้อย พร้อมกำลังคอมมานโด กองปราบปราม ขณะที่ศาลเองก็ได้ออกข้อกำหนดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้การพิจารณาคดีดำเนินไปโดยเที่ยงธรรมและรวดเร็ว อาศัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 25 ห้ามมิให้ผู้ใดประพฤติตนในทางที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือก่อความรำคาญ หรือกระทำการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการส่งเสริม ยั่วยุ สนับสนุนการกระทำดังกล่าว ในอาคาร และอาณาบริเวณศาล มิเช่นนั้นอาจถูกดำเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติ หากผู้ใดฝ่าฝืนตำรวจก็จะไล่ออกนอกบริเวณศาล พร้อมกับจะส่งเรื่องให้ศาล ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล โทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท
ขณะเดียวกัน บริเวณโดยรอบมีประชาชนส่วนหนึ่ง รวมทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางมาให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ส่วนนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่ว่าผลของคดีจะออกมาอย่างไร คู่ความทั้งสองฝ่ายมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ ขณะที่ทนายความก็จะยังคงใช้หลักทรัพย์เดิมในการยื่นขอประกันตัว
สำหรับการพิจารณาคดีศาลได้เตรียมห้อง 704 ไว้ ซึ่งสามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 120 คน ขณะเดียวกัน ศาลได้มีการถ่ายทอดสดการอ่านคำพิพากษาออกมาด้านนอก เพื่อประชาชนภายนอกได้รับฟังด้วย
สำหรับคดีนี้ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาในเวลา 09.00 น. โดยอัยการโจทก์เป็นผู้ยื่นฟ้องนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ในข้อหาร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นบริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
สำหรับมาตรการของศาลในการรักษาความสงบเรียบร้อยที่ได้มีการประสานกับหน่วยปราบปรามจลาจล 300 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาดูแลความเรียบร้อย พร้อมกำลังคอมมานโด กองปราบปราม ขณะที่ศาลเองก็ได้ออกข้อกำหนดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้การพิจารณาคดีดำเนินไปโดยเที่ยงธรรมและรวดเร็ว อาศัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 25 ห้ามมิให้ผู้ใดประพฤติตนในทางที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือก่อความรำคาญ หรือกระทำการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการส่งเสริม ยั่วยุ สนับสนุนการกระทำดังกล่าว ในอาคาร และอาณาบริเวณศาล มิเช่นนั้นอาจถูกดำเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติ หากผู้ใดฝ่าฝืนตำรวจก็จะไล่ออกนอกบริเวณศาล พร้อมกับจะส่งเรื่องให้ศาล ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล โทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท
ขณะเดียวกัน บริเวณโดยรอบมีประชาชนส่วนหนึ่ง รวมทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางมาให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ส่วนนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่ว่าผลของคดีจะออกมาอย่างไร คู่ความทั้งสองฝ่ายมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ ขณะที่ทนายความก็จะยังคงใช้หลักทรัพย์เดิมในการยื่นขอประกันตัว
สำหรับการพิจารณาคดีศาลได้เตรียมห้อง 704 ไว้ ซึ่งสามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 120 คน ขณะเดียวกัน ศาลได้มีการถ่ายทอดสดการอ่านคำพิพากษาออกมาด้านนอก เพื่อประชาชนภายนอกได้รับฟังด้วย
สำหรับคดีนี้ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาในเวลา 09.00 น. โดยอัยการโจทก์เป็นผู้ยื่นฟ้องนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ในข้อหาร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นบริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน)