นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการแก้ปัญหาหนี้สินครูว่า ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือร้ายแรงอะไร เป็นเรื่องปกติที่ไม่ได้มีเฉพาะครูและบุคลาการทางการศึกษาที่มีปัญหาหนี้สิน วงการอื่นและประเทศก็มีหนี้สิน แต่จะดำเนินการอย่างไรให้หนี้สินได้แก้ไขลุล่วง ไม่ให้งานที่ทำต้องสะดุด ตนพร้อมผู้บริหารจึงต้องมาช่วยคิดร่วมแก้ปัญหา ซึ่งมีหลายธนาคารให้ความร่วมมือ เบื้องต้นมี 4 แห่งเป็นหลัก คือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ต่อไปจะขอให้ธนาคารพาณิชย์มาร่วมแก้เป็นวงจรใหญ่
ด้านตัวแทนครู ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครู โดยขอให้รัฐจัดงบประมาณให้สถานศึกษาอย่างพอเพียง แก้ระบบบัญชีเงินเดือนครู และต้องปรับเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะ เพราะปัจจุบันครูต้องกู้เงินมาลงทุนเป็นแสนบาท เพื่อทำผลงาน แต่ตกประเมินจนต้องเป็นหนี้สิน นอกจากนี้ ยังเสนอมาตรการพักหนี้และลดดอกเบี้ยด้วย เพราะแต่ละโครงการที่รวมหนี้ครูดอกเบี้ยก็ยังสูงอยู่ และเห็นว่าน่าจะนำเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่ครูทุกคนเป็นสมาชิกมาช่วยชีวิตครูน้อย โดยแปลงเป็นอนาคตให้ครู เหมือนการนำเงิน ชพค.มาปล่อยกู้ให้ครู ซึ่งเงินใน กบข.มีมากพอจะล้างหนี้ครูได้หมด
ด้านตัวแทนครู ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครู โดยขอให้รัฐจัดงบประมาณให้สถานศึกษาอย่างพอเพียง แก้ระบบบัญชีเงินเดือนครู และต้องปรับเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะ เพราะปัจจุบันครูต้องกู้เงินมาลงทุนเป็นแสนบาท เพื่อทำผลงาน แต่ตกประเมินจนต้องเป็นหนี้สิน นอกจากนี้ ยังเสนอมาตรการพักหนี้และลดดอกเบี้ยด้วย เพราะแต่ละโครงการที่รวมหนี้ครูดอกเบี้ยก็ยังสูงอยู่ และเห็นว่าน่าจะนำเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่ครูทุกคนเป็นสมาชิกมาช่วยชีวิตครูน้อย โดยแปลงเป็นอนาคตให้ครู เหมือนการนำเงิน ชพค.มาปล่อยกู้ให้ครู ซึ่งเงินใน กบข.มีมากพอจะล้างหนี้ครูได้หมด