วันนี้ (25 ก.ค.) เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เป็นเจ้าภาพร่วมในการบำเพ็ญกุศล ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์จำนวน 10 รูป จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ วัดสิทธาราม กรุงเทพมหานคร วัดนังคัลจันตรี วัดธัญญะผล จ.ปทุมธานี วัดโมก จ.สมุทรปราการ วัดเลียบ จ.ปราจีนบุรี วัดเนินสว่าง จ.ระยอง วัดธารพูด จ.ฉะเชิงเทรา
ในการนี้ พระครูไพศาล ประชาทร จากวัดสิทธาราม ได้แสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง ไตรสรณคมกถา ที่กล่าวถึงการสวดไตรสรณคม หรือการสวดบทนะโม 3 จบ ที่ถือว่ามีคุณานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง เป็นการน้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้าในอดีตที่ล่วงมาแล้วในจบที่ 1 น้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันในจบที่ 2 และน้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต จบที่ 3 ผู้ใดก็ตามทำเป็นนิจ ก็จะเป็นสุขทั้งปวง ดั่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ทรงใช้หลักธรรมของพระพุทธศาสนา ศึกษาหาความรู้และพัฒนาตนเองให้รอบรู้ในวิชาการต่างๆ และเพรียบพร้อมไปด้วยพระจริยวัตรอันงดงาม อย่างนี้เรียกว่าอัตถจริยา ซึ่งเป็นแบบแผนให้คนรุ่นปัจจุบันและอนาคตถือเป็นแบบอย่าง และสำนึกเทิดทูนในพระเมตตากรุณาธิคุณมิเสื่อมคลาย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 206 วันแล้ว ที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ แต่พสกนิกรชาวไทยยังคงเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อมากราบถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีประชาชนได้เข้ากราบสักการะที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง แล้วกว่า 1 ล้าน 8 หมื่นคน และหากรวมยอดที่สหทัยสมาคม จะมียอดรวมทั้งสิ้น กว่า 1 ล้าน 2 แสนคน
ในการนี้ พระครูไพศาล ประชาทร จากวัดสิทธาราม ได้แสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง ไตรสรณคมกถา ที่กล่าวถึงการสวดไตรสรณคม หรือการสวดบทนะโม 3 จบ ที่ถือว่ามีคุณานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง เป็นการน้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้าในอดีตที่ล่วงมาแล้วในจบที่ 1 น้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันในจบที่ 2 และน้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต จบที่ 3 ผู้ใดก็ตามทำเป็นนิจ ก็จะเป็นสุขทั้งปวง ดั่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ทรงใช้หลักธรรมของพระพุทธศาสนา ศึกษาหาความรู้และพัฒนาตนเองให้รอบรู้ในวิชาการต่างๆ และเพรียบพร้อมไปด้วยพระจริยวัตรอันงดงาม อย่างนี้เรียกว่าอัตถจริยา ซึ่งเป็นแบบแผนให้คนรุ่นปัจจุบันและอนาคตถือเป็นแบบอย่าง และสำนึกเทิดทูนในพระเมตตากรุณาธิคุณมิเสื่อมคลาย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 206 วันแล้ว ที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ แต่พสกนิกรชาวไทยยังคงเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อมากราบถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีประชาชนได้เข้ากราบสักการะที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง แล้วกว่า 1 ล้าน 8 หมื่นคน และหากรวมยอดที่สหทัยสมาคม จะมียอดรวมทั้งสิ้น กว่า 1 ล้าน 2 แสนคน
