แกร์รี และเคต แมคแคนน์ พ่อและแม่ของแมดเดอลีน หนูน้อยชาวอังกฤษที่หายตัวไปอย่างลึกลับจากห้องพักของรีสอร์ตในโปรตุเกส กล่าวว่า พวกเขายังหวังว่าจะได้เจอหน้าลูกสาวอีกครั้ง และรู้สึกโล่งใจที่ตำรวจโปรตุเกสสรุปว่าพวกเขาทั้งคู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของแมดเดอลีนเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
“อย่างไรก็ตามเราทั้งคู่อยากขอดูแฟ้มการสอบสวนของตำรวจ มันยากที่จะอธิบายได้ว่าเรารู้สึกเสียใจเพียงใดที่ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยลักพาตัวลูกสาวของตัวเอง แต่เรายืนยันได้ว่าจะไม่ล้มเลิกความพยายามในการตามหาแมดเดอลีนต่อไป” เคตกล่าวขณะที่สามีนั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ในเมืองร็อธลีย์ของเลสเตอร์เชียร์ บ้านเกิดของทั้งคู่
หลังใช้เวลาในการสอบสวนนานถึง 14 เดือน อัยการโปรตุเกสสรุปว่า ทางการไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 ราย ซึ่งได้แก่ แกร์รี และเคต รวมถึงโรเบิร์ต มูรัต ชายชาวโปรตุเกสซึ่งมีส่วนพัวพันในคดีดังกล่าว และได้สั่งปิดคดีในที่สุด ขณะที่ทนายความของแกร์รีและเคตสามารถยื่นเรื่องขอดูแฟ้มการสอบสวนของตำรวจได้ในปลายสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตามโฮเซ ปินโต มอนเตโร อัยการโปรตุเกส กล่าวว่า ตำรวจสามารถรื้อฟื้นคดีได้ใหม่หากมีหลักฐานใหม่เพียงพอ
แมดเดอลีนหายตัวไปอย่างลึกลับจากห้องพักของรีสอร์ตแห่งหนึ่งในเมืองอัลการ์ฟของโปรตุเกสเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ซึ่งจากการสอบสวนของนิติเวชอังกฤษได้พบหลักฐานสำคัญซึ่งขัดแย้งกับผลการตรวจพบดีเอ็นเอของแมดเดอลีนในรถเช่าของแกร์รีและเคต ในขณะที่รายงานของอัยการโปรตุเกสกลับตั้งข้อสงสัยในประเด็นที่ว่าเหตุใดสุนัขตำรวจจึงแสดงอาการว่าพบ “กลิ่นการเสียชีวิต” ภายในห้องพักที่หนูน้อยหายตัวไป
ด้านมาร์ก วิลเลียมส์-โธมัส ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็ก และอดีตตำรวจอังกฤษ กล่าวหลังได้รับเอกสารสรุปจากอัยการโปรตุเกสซึ่งเป็นรายงานของนิติเวชอังกฤษเมื่อเดือนกันยายนว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบดีเอ็นเอของแมดเดอลีนในรถเช่า และที่ขอบหน้าต่างภายในห้องพัก รวมถึงลานจอดรถของรีสอร์ต
อย่างไรก็ตามรายงานฉบับที่ 2 เมื่อเดือนธันวาคมกลับระบุว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าตัวอย่างดีเอ็นเอดังกล่าวเป็นของแมดเดอลีน เคต ผู้เป็นแม่ หรืออเมอลี พี่สาวของแมดเดอลีน ขณะที่ยังไม่มีการยืนยันว่ารายงานฉบับแรกถูกจัดทำขึ้นก่อนหรือหลังจากที่ตำรวจโปรตุเกสตั้งข้อสงสัยว่าพ่อแม่ของแมดเดอลีนอาจมีส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปของหนูน้อย
“ผมไม่ได้วิจารณ์ผลตรวจจากห้องแล็บ แต่สิ่งที่ผมจะพูดก็คือเจ้าหน้าที่นำหลักฐานเท่าที่พบในช่วงเวลานั้นมาเขียนรายงาน ซึ่งแน่นอนที่การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นได้” วิลเลียมส์-โธมัสกล่าว
ขณะที่นิติเวชอังกฤษ ยืนยันว่า เทคนิคในการตรวจดีเอ็นเอมีความแม่นยำและน่าเชื่อถือ แต่ก็ยอมรับว่าผลการตรวจจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวอย่างดีเอ็นเอเช่นกัน
เช่นเดียวกับรายงานของอัยการโปรตุเกสซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า เคต แม่ของแมดเดอลีนซึ่งมีอาชีพเป็นหมอ อาจมีการสัมผัสกับศพผู้ป่วยที่เสียชีวิตก่อนเดินทางไปพักผ่อนที่โปรตุเกส ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดสุนัขตำรวจจึงดมกลิ่นคนตายได้จากห้องพักของรีสอร์ตดังกล่าว
“อย่างไรก็ตามเราทั้งคู่อยากขอดูแฟ้มการสอบสวนของตำรวจ มันยากที่จะอธิบายได้ว่าเรารู้สึกเสียใจเพียงใดที่ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยลักพาตัวลูกสาวของตัวเอง แต่เรายืนยันได้ว่าจะไม่ล้มเลิกความพยายามในการตามหาแมดเดอลีนต่อไป” เคตกล่าวขณะที่สามีนั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ในเมืองร็อธลีย์ของเลสเตอร์เชียร์ บ้านเกิดของทั้งคู่
หลังใช้เวลาในการสอบสวนนานถึง 14 เดือน อัยการโปรตุเกสสรุปว่า ทางการไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 ราย ซึ่งได้แก่ แกร์รี และเคต รวมถึงโรเบิร์ต มูรัต ชายชาวโปรตุเกสซึ่งมีส่วนพัวพันในคดีดังกล่าว และได้สั่งปิดคดีในที่สุด ขณะที่ทนายความของแกร์รีและเคตสามารถยื่นเรื่องขอดูแฟ้มการสอบสวนของตำรวจได้ในปลายสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตามโฮเซ ปินโต มอนเตโร อัยการโปรตุเกส กล่าวว่า ตำรวจสามารถรื้อฟื้นคดีได้ใหม่หากมีหลักฐานใหม่เพียงพอ
แมดเดอลีนหายตัวไปอย่างลึกลับจากห้องพักของรีสอร์ตแห่งหนึ่งในเมืองอัลการ์ฟของโปรตุเกสเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ซึ่งจากการสอบสวนของนิติเวชอังกฤษได้พบหลักฐานสำคัญซึ่งขัดแย้งกับผลการตรวจพบดีเอ็นเอของแมดเดอลีนในรถเช่าของแกร์รีและเคต ในขณะที่รายงานของอัยการโปรตุเกสกลับตั้งข้อสงสัยในประเด็นที่ว่าเหตุใดสุนัขตำรวจจึงแสดงอาการว่าพบ “กลิ่นการเสียชีวิต” ภายในห้องพักที่หนูน้อยหายตัวไป
ด้านมาร์ก วิลเลียมส์-โธมัส ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็ก และอดีตตำรวจอังกฤษ กล่าวหลังได้รับเอกสารสรุปจากอัยการโปรตุเกสซึ่งเป็นรายงานของนิติเวชอังกฤษเมื่อเดือนกันยายนว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบดีเอ็นเอของแมดเดอลีนในรถเช่า และที่ขอบหน้าต่างภายในห้องพัก รวมถึงลานจอดรถของรีสอร์ต
อย่างไรก็ตามรายงานฉบับที่ 2 เมื่อเดือนธันวาคมกลับระบุว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าตัวอย่างดีเอ็นเอดังกล่าวเป็นของแมดเดอลีน เคต ผู้เป็นแม่ หรืออเมอลี พี่สาวของแมดเดอลีน ขณะที่ยังไม่มีการยืนยันว่ารายงานฉบับแรกถูกจัดทำขึ้นก่อนหรือหลังจากที่ตำรวจโปรตุเกสตั้งข้อสงสัยว่าพ่อแม่ของแมดเดอลีนอาจมีส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปของหนูน้อย
“ผมไม่ได้วิจารณ์ผลตรวจจากห้องแล็บ แต่สิ่งที่ผมจะพูดก็คือเจ้าหน้าที่นำหลักฐานเท่าที่พบในช่วงเวลานั้นมาเขียนรายงาน ซึ่งแน่นอนที่การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นได้” วิลเลียมส์-โธมัสกล่าว
ขณะที่นิติเวชอังกฤษ ยืนยันว่า เทคนิคในการตรวจดีเอ็นเอมีความแม่นยำและน่าเชื่อถือ แต่ก็ยอมรับว่าผลการตรวจจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวอย่างดีเอ็นเอเช่นกัน
เช่นเดียวกับรายงานของอัยการโปรตุเกสซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า เคต แม่ของแมดเดอลีนซึ่งมีอาชีพเป็นหมอ อาจมีการสัมผัสกับศพผู้ป่วยที่เสียชีวิตก่อนเดินทางไปพักผ่อนที่โปรตุเกส ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดสุนัขตำรวจจึงดมกลิ่นคนตายได้จากห้องพักของรีสอร์ตดังกล่าว