นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ไม่ได้แบกรับภาระจากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันจำนวน 20,000 ล้านบาทตามที่หลายฝ่ายเข้าใจ แต่เป็นกระทรวงการคลังที่เป็นผู้แบกรับภาระ ส่วน ปตท.จะดูแลในเรื่องของปริมาณน้ำมันให้มีเพียงพอกับความต้องการใช้ของประชาชนและระดับราคาน้ำมันที่เป็นธรรม และแบกรับภาระหากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นแล้วไทยปรับตัวไม่ทันกับต้นทุน โดยตั้งแต่ต้นปี 2551 ที่ผ่านมา ปตท.แบกรับภาระไปแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะรับภาระกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งการขายแอลพีจีต่ำกว่าตลาดโลก 30,000 - 40,000 ล้านบาท และราคาเอ็นจีวีต่ำกว่าทุน 5,400 ล้านบาท ด้านราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนที่รัฐบาลให้คงราคาไว้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นเวลา 6 เดือน ส่วนราคาแอลพีจีภาคการขนส่งและอุตสาหกรรมให้ปรับขึ้น เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้ใช้ทราบว่าขณะนี้ราคาที่ไทยใช้อยู่ในปัจจุบันต่ำกว่าราคาในตลาดโลกมาก หรือ 1 ใน 3 ของราคาตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้มีการจำหน่ายแอลพีจีในราคาที่ตรึงไว้ ประเทศอาจต้องนำเข้ามากขึ้นรองรับความต้องการใช้ที่สูงขึ้น ในขณะที่ต้องซื้อแอลพีจีราคาตลาดโลกส่งผลให้รัฐบาลต้องแบกรับภาระในส่วนที่ขาดไป ซึ่งประมาณการณ์ไม่ได้ว่าจะมีการนำเข้าอีกนานเพียงใดและจำนวนเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้มีการจำหน่ายแอลพีจีในราคาที่ตรึงไว้ ประเทศอาจต้องนำเข้ามากขึ้นรองรับความต้องการใช้ที่สูงขึ้น ในขณะที่ต้องซื้อแอลพีจีราคาตลาดโลกส่งผลให้รัฐบาลต้องแบกรับภาระในส่วนที่ขาดไป ซึ่งประมาณการณ์ไม่ได้ว่าจะมีการนำเข้าอีกนานเพียงใดและจำนวนเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ
