นายพิษณุ สุวรรณชฏ รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวชี้แจงผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 32 ณ เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา ที่มีมติให้จัดตั้งคณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศ เพื่อรักษาและพัฒนาทรัพย์สินภายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2009 ว่า คณะกรรมการมรดกโลกต้องการบังคับให้กัมพูชาเชิญรัฐบาลไทย และหุ้นส่วนระหว่างประเทศ อีกไม่เกิน 7 ประเทศ เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบนโยบายทั่วไปเกี่ยวกับการรักษาคุณค่าอันโดดเด่น เป็นสากลของปราสาทพระวิหาร โดยไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่โดยรอบ ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยในการตัดสินใจพิจารณาผลดีผลเสียว่าจะเข้าร่วมหรือไม่โดยเร็วที่สุด ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่า เป็นโอกาสของไทยที่จะมีส่วนในการแสดงความคิดเห็นและทักท้วงนโยบายที่ไทยเห็นแย้งในการบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมขับไล่ชาวกัมพูชา บริเวณจังหวัดศรีสะเกษ กระทรวงการต่างประเทศได้กำหนดมาตรการชั่วคราว ป้องกันเหตุปะทะของประชาชนไว้แล้ว พร้อมยืนยันว่า ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก เมื่อมีการประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว ผู้แทนทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ต่างยืนยันจะพัฒนาความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ระหว่าง 2 ประเทศในทุกด้าน
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมขับไล่ชาวกัมพูชา บริเวณจังหวัดศรีสะเกษ กระทรวงการต่างประเทศได้กำหนดมาตรการชั่วคราว ป้องกันเหตุปะทะของประชาชนไว้แล้ว พร้อมยืนยันว่า ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก เมื่อมีการประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว ผู้แทนทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ต่างยืนยันจะพัฒนาความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ระหว่าง 2 ประเทศในทุกด้าน