หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อสนับสนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 กลุ่ม ส.ว.เกือบ 100 คน นำโดยนางรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ ได้มีการหารือและร่วมกันแถลงข่าวเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยการลาออก เพราะจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ กลุ่ม ส.ว.จะส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และจะมีการพิจารณาว่า เข้าข่ายกฎหมายอาญามาตรา 119 และมาตรา 120 ในหมวดความมั่นคงของรัฐ ที่มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตหรือไม่
สำหรับกระบวนการถอดถอน กลุ่ม ส.ว.ยืนยันว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกระบวนการนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องของ ส.ส.จำนวน 1 ใน 4 หรือประชาชนจำนวน 20,000 รายชื่อ ที่จะเข้าชื่อกันยื่นต่อประธานวุฒิสภา เพื่อให้ถอดถอนคณะรัฐมนตรี
ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ลาออกจากตำแหน่งด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดพลาด ในเรื่องการลงนามแถลงการณ์ร่วมฯ
ทั้งนี้ กลุ่ม ส.ว.จะส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และจะมีการพิจารณาว่า เข้าข่ายกฎหมายอาญามาตรา 119 และมาตรา 120 ในหมวดความมั่นคงของรัฐ ที่มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตหรือไม่
สำหรับกระบวนการถอดถอน กลุ่ม ส.ว.ยืนยันว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกระบวนการนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องของ ส.ส.จำนวน 1 ใน 4 หรือประชาชนจำนวน 20,000 รายชื่อ ที่จะเข้าชื่อกันยื่นต่อประธานวุฒิสภา เพื่อให้ถอดถอนคณะรัฐมนตรี
ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ลาออกจากตำแหน่งด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดพลาด ในเรื่องการลงนามแถลงการณ์ร่วมฯ