นายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยมรดกโลกประเทศไทย แถลงต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.ที่ผ่านมา หลังทราบมติของคณะกรรมการมรดกโลก โดยกล่าวในตอนหนึ่งว่า รู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงที่ข้อเรียกร้องของรัฐบาลไทย ที่เสนอให้มีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกันถูกปฏิเสธตลอดเวลาที่ผ่านมา และการตัดสินใจขึ้นทะเบียนมรดกโลกครั้งนี้ ที่พิจารณาขึ้นเฉพาะตัวปราสาทเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการเสนอพื้นที่กันชนรอบปราสาท และพื้นที่รอบข้าง ซึ่งจะทำให้ขาดภูมิทัศน์รอบปราสาท ที่จะทำให้ปราสาทเกิดความสง่างาม และจากเหตุผลดังกล่าวทำให้ฝ่ายไทยไม่ยอมรับการขึ้นทะเบียนเพียงฝ่ายเดียวของรัฐบาลกัมพูชา
นอกจากนี้ นายปองพล ยังได้ประท้วงการใช้แผนที่ใดๆ ของมรดกโลกที่อาจจะนำไปสู่ข้อขัดแย้ง ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้ในอนาคต
ทั้งนี้ นายปองพล ตั้งความหวังว่า ในอนาคตคณะกรรมการมรดกโลกจะได้พิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกโลกในส่วนของโบราณสถานที่อยู่ในเขตชายแดนของไทย ทางตอนเหนือของตัวปราสาท เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกข้ามพรมแดน อันจะนำไปสู่ความร่วมมือของรัฐบาล และประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
นายปองพล กล่าวในตอนท้ายสุดว่า ได้มีการยื่นเอกสารเพื่อขอให้ยูเนสโกพิจารณาประกอบขึ้นทะเบียนมรดกโลกข้ามพรมแดน โดยรวมเอาโบราณสถานฝั่งไทยเข้าไปรวมด้วย
นอกจากนี้ นายปองพล ยังได้ประท้วงการใช้แผนที่ใดๆ ของมรดกโลกที่อาจจะนำไปสู่ข้อขัดแย้ง ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้ในอนาคต
ทั้งนี้ นายปองพล ตั้งความหวังว่า ในอนาคตคณะกรรมการมรดกโลกจะได้พิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกโลกในส่วนของโบราณสถานที่อยู่ในเขตชายแดนของไทย ทางตอนเหนือของตัวปราสาท เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกข้ามพรมแดน อันจะนำไปสู่ความร่วมมือของรัฐบาล และประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
นายปองพล กล่าวในตอนท้ายสุดว่า ได้มีการยื่นเอกสารเพื่อขอให้ยูเนสโกพิจารณาประกอบขึ้นทะเบียนมรดกโลกข้ามพรมแดน โดยรวมเอาโบราณสถานฝั่งไทยเข้าไปรวมด้วย