นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่อดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ PTV ออกมาระบุว่าจะมีการฟื้นฟูสถานีโทรทัศน์ PTV กลับมาอีกครั้งว่า หากการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งก็ไม่น่าจะเสียหาย แต่เท่าที่พรรคประชาธิปัตย์รับทราบข้อมูลเชื่อว่าการดำเนินการในครั้งนี้จะเป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งมากกว่า พร้อมกับเตือน ส.ส.ที่จะไปเข้าร่วมทำหน้าที่ในสถานีโทรทัศน์ PTV ว่าอาจขัดต่อกฎหมายและทำให้พ้นจากการเป็น ส.ส.ได้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะปฏิวัติตัวเองเพื่อหนีความผิดในคดีที่อยู่ในชั้นศาล ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องจำคุกนั้น นายองอาจ เห็นว่าการจะปฏิวัติตัวเองหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่ทหารเพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าของพรรคตัวจริงด้วย ซึ่งบ้านเมืองในขณะนี้ไม่ควรที่จะมีการปฏิวัติหรือรัฐประหารเกิดขึ้นอีก และควรจะเดินหน้าไปตามกระบวนการประชาธิปไตย
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะปฏิวัติตัวเองเพื่อหนีความผิดในคดีที่อยู่ในชั้นศาล ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องจำคุกนั้น นายองอาจ เห็นว่าการจะปฏิวัติตัวเองหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่ทหารเพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าของพรรคตัวจริงด้วย ซึ่งบ้านเมืองในขณะนี้ไม่ควรที่จะมีการปฏิวัติหรือรัฐประหารเกิดขึ้นอีก และควรจะเดินหน้าไปตามกระบวนการประชาธิปไตย
