นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประเมินภาพรวมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยในช่วงครึ่งปีแรก 1 มกราคมถึง 30 มิถุนายนนี้ ดัชนีหุ้นลดลงไปแล้วกว่า 10.43 เปอร์เซ็นต์ และนักลงทุนต่างชาติก็ขายหุ้นไทยไปกว่า 50,339 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยลดลงไปแล้วถึง 570,000 ล้านบาท หรือลดลง 8 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 6,060,000 ล้านบาท โดยนักลงทุนนั้นยังคงกังวลเรื่องปัญหาน้ำมัน ปัญหาเงินเฟ้อ และปัญหาซับไพรม์ และก็ตอกย้ำด้วยปัญหาการเมืองในประเทศ ที่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งหากครึ่งปีหลังปัจจัยเหล่านี้คลี่คลายก็เชื่อว่า นักลงทุนจะกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีก
ส่วนตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงครึ่งปีดัชนีหุ้นได้ลดลงมากที่สุดใน 6 ปี โดยนักลงทุนได้เทขายหุ้นออกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3,300 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ลดลงไปถึง 14.4 เปอร์เซ็นต์
ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้น 8.9 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดในรอบ 10 ปี เป็นสถิติใหม่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันสูงกว่า 94 เปอร์เซ็นต์ แต่ว่าในครึ่งปีแรกเงินเฟ้อยังอยู่ที่ 6.3 เปอร์เซ็นต์
ส่วนตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงครึ่งปีดัชนีหุ้นได้ลดลงมากที่สุดใน 6 ปี โดยนักลงทุนได้เทขายหุ้นออกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3,300 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ลดลงไปถึง 14.4 เปอร์เซ็นต์
ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้น 8.9 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดในรอบ 10 ปี เป็นสถิติใหม่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันสูงกว่า 94 เปอร์เซ็นต์ แต่ว่าในครึ่งปีแรกเงินเฟ้อยังอยู่ที่ 6.3 เปอร์เซ็นต์