นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) กล่าวถึงการส่งเสริมการใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลที่ผลิตได้จากอ้อยว่า จะไม่กระทบต่อปริมาณการใช้น้ำตาลทรายภายในประเทศอย่างแน่นอน โดยวาระอ้อยแห่งชาติของรัฐบาล ช่วงปี 2551-2554 แบ่งสัดส่วนอ้อยประมาณ 18 ล้านตันมาผลิตเอทานอลใช้แทนในน้ำมันเบนซิน ซึ่งมีเงื่อนไขต้องทดแทนเบนซินได้ในอัตราร้อยละ 47.75 หรือ 6.7 ล้านบาท และเพิ่มผลผลิตอ้อย จาก 11.81 ตันต่อไร่ เป็น 15 ตันต่อไร่ สำหรับการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน กิโลกรัมละ 5 บาทที่ผ่านมา เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้ชำระหนี้เท่านั้น ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย ช่วง 3 ปีนี้
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลทรายอันดับ 2 ของโลก มีมูลค่าการตลาด กว่า 4 หมื่นล้านบาท และคาดว่าแนวโน้มการปลูกอ้อยในปีการผลิต 2551/52 ปริมาณการปลูกอ้อยจะเพิ่มขึ้น โดยอยู่ที่ประมาณ 75 ล้านตัน เนื่องจากมั่นใจว่าหลังจากรัฐบาลปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย 5 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเพิ่มราคาอ้อยแล้ว ชาวไร่อ้อยจะไม่หันไปปลูกพืชชนิดอื่น ประกอบกับแนวโน้มราคาอ้อยในปีถัดไปน่าจะดีขึ้นตามแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลก
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลทรายอันดับ 2 ของโลก มีมูลค่าการตลาด กว่า 4 หมื่นล้านบาท และคาดว่าแนวโน้มการปลูกอ้อยในปีการผลิต 2551/52 ปริมาณการปลูกอ้อยจะเพิ่มขึ้น โดยอยู่ที่ประมาณ 75 ล้านตัน เนื่องจากมั่นใจว่าหลังจากรัฐบาลปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย 5 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเพิ่มราคาอ้อยแล้ว ชาวไร่อ้อยจะไม่หันไปปลูกพืชชนิดอื่น ประกอบกับแนวโน้มราคาอ้อยในปีถัดไปน่าจะดีขึ้นตามแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลก