สภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร จัดเวทีระดมความคิดเห็นของเยาวชน เพื่อเรียกร้อง "พื้นที่สร้างสรรค์ของคนวัยมันส์" โดยมี รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาเพื่อเด็กด้อยโอกาส จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมแสดงความเห็นกับตัวแทนเยาวชน และเครือข่ายพ่อแม่ ผู้ปกครอง
รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่เสี่ยงสำหรับเด็กมีเพิ่มขึ้น ในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 คือมีพื้นที่เสี่ยงถึง 3 ส่วน ขณะที่มีพื้นที่ดีสำหรับเด็กเพียง 1 ส่วน และเด็กเข้าถึงพื้นที่ดีๆ ยากขึ้น ทั้งที่มีน้อยอยู่แล้วในกรุงเทพฯ บางแห่ง เป็นพื้นที่รัฐ ก็เปิดให้บริการในช่วงเวลาราชการ ทำให้เด็กไม่มีโอกาสเข้าถึง นอกจากนี้ยังพบว่า สนามกีฬา หรือสนามเด็กเล่นบางแห่งของรัฐ มีการเก็บค่าใช้จ่าย ทำให้ปัญหาเด็กและเยาวชนเพิ่มมากขึ้น หากเด็กคนใดหลุดจากครอบครัว หรือโรงเรียน โอกาสเข้าสู่พื้นที่เสี่ยงยิ่งมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาเด็กติดยาเสพติด ปัญหาการพนัน และปัญหาการเสพสื่อลามก
รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวด้วยว่า เด็กปัจจุบันเกิดภาวะเครียดเพราะเด็กยุคนี้ใจเสาะ สังคมรุนแรง ทำให้เกิดวัฒนธรรมป๊อก เมื่อผิดหวังรับไม่ได้ จึงเกิดภาวะแยกตัวจากสังคม ซึมเศร้า ยิ่งไม่มีพื้นที่ดีๆ ให้เด็ก จึงทำให้เกิดปัญหาเด็กที่ผิดหวังฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ สภาพสังคมการเมืองของไทย กลายเป็นสังคมสุดโต่งมากขึ้น ความประนีประนอมหายไปจากคนไทย ถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับเด็ก จึงอยากฝากว่า ความแตกต่างทางความคิดมีได้ แต่สังคมควรเร่งหาทางออกของปัญหา เพราะยังมีเรื่องสำหรับเด็กและเรื่องอื่นๆ ที่รอให้รัฐแก้ไข หากประเทศไทยยังเป็นเช่นนี้อีก 10 ปี เด็กไทยจะลอกคราบ กลายเป็นเด็กก้าวร้าว
รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่เสี่ยงสำหรับเด็กมีเพิ่มขึ้น ในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 คือมีพื้นที่เสี่ยงถึง 3 ส่วน ขณะที่มีพื้นที่ดีสำหรับเด็กเพียง 1 ส่วน และเด็กเข้าถึงพื้นที่ดีๆ ยากขึ้น ทั้งที่มีน้อยอยู่แล้วในกรุงเทพฯ บางแห่ง เป็นพื้นที่รัฐ ก็เปิดให้บริการในช่วงเวลาราชการ ทำให้เด็กไม่มีโอกาสเข้าถึง นอกจากนี้ยังพบว่า สนามกีฬา หรือสนามเด็กเล่นบางแห่งของรัฐ มีการเก็บค่าใช้จ่าย ทำให้ปัญหาเด็กและเยาวชนเพิ่มมากขึ้น หากเด็กคนใดหลุดจากครอบครัว หรือโรงเรียน โอกาสเข้าสู่พื้นที่เสี่ยงยิ่งมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาเด็กติดยาเสพติด ปัญหาการพนัน และปัญหาการเสพสื่อลามก
รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวด้วยว่า เด็กปัจจุบันเกิดภาวะเครียดเพราะเด็กยุคนี้ใจเสาะ สังคมรุนแรง ทำให้เกิดวัฒนธรรมป๊อก เมื่อผิดหวังรับไม่ได้ จึงเกิดภาวะแยกตัวจากสังคม ซึมเศร้า ยิ่งไม่มีพื้นที่ดีๆ ให้เด็ก จึงทำให้เกิดปัญหาเด็กที่ผิดหวังฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ สภาพสังคมการเมืองของไทย กลายเป็นสังคมสุดโต่งมากขึ้น ความประนีประนอมหายไปจากคนไทย ถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับเด็ก จึงอยากฝากว่า ความแตกต่างทางความคิดมีได้ แต่สังคมควรเร่งหาทางออกของปัญหา เพราะยังมีเรื่องสำหรับเด็กและเรื่องอื่นๆ ที่รอให้รัฐแก้ไข หากประเทศไทยยังเป็นเช่นนี้อีก 10 ปี เด็กไทยจะลอกคราบ กลายเป็นเด็กก้าวร้าว