นายนาวาซ ชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ได้ร่วมกับนักกฏหมายและนักเคลื่อนไหวจำนวนกว่า 10,000 คน เดินประท้วงจากเมืองละฮอร์ ไปยังกรุงอิสลามาบัด เพื่อกดดันให้รัฐบาลปากีสถาน คืนตำแหน่งให้กับกลุ่มผู้พิพากษาที่ถูก ประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ปลดออกจากตำแหน่ง ในช่วงที่ปากีสถานประกาศภาวะฉุกเฉิน เมื่อปีที่ผ่านมา
นายชารีฟ กล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงว่า พรรคสันนิบาตมุสลิมปากีสถานของเขา รวมไปถึงคนในพรรคและผู้สนับสนุนพรรค จะยืนอยู่เคียงข้างบรรดาทนายความ จนกว่าผู้พิพากษาซึ่งถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยอำนาจของประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ จะได้กลับเข้ารับตำแหน่งดังเดิม นอกจากนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ระบุด้วยว่า เขารู้สึกเสียใจที่กลุ่มทนายความยังต้องออกมาประท้วงตามท้องถนน แม้ปากีสถานจะมีรัฐบาลประชาธิปไตยแล้วก็ตาม
นายชารีฟ ยังย้ำด้วยว่า นายกรัฐมนตรีปากีสถาน สามารถออกคำสั่งคืนตำแหน่งให้กับผู้พิพากษาที่ถูกปลดจากตำแหน่งได้ทันที
ขณะที่รัฐบาลปากีสถาน มั่นใจว่า การประท้วงจะอยู่ในความสงบ เนื่องจากกลุ่มทนายความได้รับปากแล้วว่าจะไม่เข้าใกล้เขตที่ทางการห้ามไว้ ซึ่งรวมไปถึงอาคารรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดี ศาลฎีกา และสถานทูตของต่างชาติ
นายชารีฟ กล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงว่า พรรคสันนิบาตมุสลิมปากีสถานของเขา รวมไปถึงคนในพรรคและผู้สนับสนุนพรรค จะยืนอยู่เคียงข้างบรรดาทนายความ จนกว่าผู้พิพากษาซึ่งถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยอำนาจของประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ จะได้กลับเข้ารับตำแหน่งดังเดิม นอกจากนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ระบุด้วยว่า เขารู้สึกเสียใจที่กลุ่มทนายความยังต้องออกมาประท้วงตามท้องถนน แม้ปากีสถานจะมีรัฐบาลประชาธิปไตยแล้วก็ตาม
นายชารีฟ ยังย้ำด้วยว่า นายกรัฐมนตรีปากีสถาน สามารถออกคำสั่งคืนตำแหน่งให้กับผู้พิพากษาที่ถูกปลดจากตำแหน่งได้ทันที
ขณะที่รัฐบาลปากีสถาน มั่นใจว่า การประท้วงจะอยู่ในความสงบ เนื่องจากกลุ่มทนายความได้รับปากแล้วว่าจะไม่เข้าใกล้เขตที่ทางการห้ามไว้ ซึ่งรวมไปถึงอาคารรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดี ศาลฎีกา และสถานทูตของต่างชาติ