สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) มีแผนเรียกร้องร่วมกันให้สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ส่งเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ไปยังซิมบับเว หลังจากกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนกล่าวหารัฐบาลซิมบับเวว่า สังหารและทรมานประชาชนอย่างเป็นระบบก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ร่างแถลงการณ์ขั้นสุดท้ายที่จะออกในการประชุมสุดยอดสหรัฐฯ และอียู ที่สโลวีเนียในวันนี้ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลซิมบับเวยุติการก่อเหตุรุนแรงและการข่มขู่ประชาชนในทันที ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดี และสมาชิกรัฐสภา เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา
ขณะที่กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ ระบุว่า การใช้ความรุนแรงต่อประชาชนของกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ทำให้โอกาสของการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบตัดเชือกด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ หมดไป โดยกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนระบุว่า เกิดคดีฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างน้อย 36 คดี และมีผู้เสียชีวิตจากการลักพาตัว การทำร้ายร่างกาย และการทรมานจากพรรคการเมืองของประธานาธิบดีมูกาเบ อีก 2,000 คน ขณะที่ประชาชนกว่า 3,000 คน ได้หลบหนีเหตุการณ์รุนแรงออกนอกพื้นที่
ร่างแถลงการณ์ขั้นสุดท้ายที่จะออกในการประชุมสุดยอดสหรัฐฯ และอียู ที่สโลวีเนียในวันนี้ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลซิมบับเวยุติการก่อเหตุรุนแรงและการข่มขู่ประชาชนในทันที ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดี และสมาชิกรัฐสภา เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา
ขณะที่กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ ระบุว่า การใช้ความรุนแรงต่อประชาชนของกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ทำให้โอกาสของการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบตัดเชือกด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ หมดไป โดยกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนระบุว่า เกิดคดีฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างน้อย 36 คดี และมีผู้เสียชีวิตจากการลักพาตัว การทำร้ายร่างกาย และการทรมานจากพรรคการเมืองของประธานาธิบดีมูกาเบ อีก 2,000 คน ขณะที่ประชาชนกว่า 3,000 คน ได้หลบหนีเหตุการณ์รุนแรงออกนอกพื้นที่