นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการชุมนุมเพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มั่นใจจะมีแนวร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 30,000 คน รวมทั้งอาจเป็นการชุมนุมยืดเยื้อไม่มีกำหนดยุติ ซึ่งกลุ่มจะใช้วิธีผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักอยู่นั้น พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประชุมวางมาตรการดูแลความเรียบร้อยร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 และกรุงเทพมหานครแล้ว พร้อมยืนยันจะไม่อนุญาตให้พันธมิตรฯ ชุมนุมยืดเยื้อ
ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะตั้งวอร์รูมที่โรงเรียนสตรีวิทยา ป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มพันธมิตรกับกลุ่มผู้ต่อต้าน โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ รวม 600 นายดูแล หากเกิดความวุ่นวายจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด จึงอยากขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมชุมนุมเรียกร้องกันในกรอบของกฎหมายตามระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า การประชุมประเมินสถานการณ์การดูแลรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ตำรวจจะประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา พร้อมจะเจรจากับแกนนำกลุ่มให้ขึ้นไปชุมนุมบนทางเท้าไม่ให้ปิดกั้นการจราจร ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป เพราะขณะนี้ตำรวจจำเป็นต้องปิดถนนบริเวณแยกมิสกวันถึงแยก จปร. อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะใช้กำลังดูแลบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา จำนวน 18 กองร้อย หรือประมาณ 2,700 นาย สับเปลี่ยนกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วงเย็นวันนี้จะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมเพิ่มมากขึ้น พร้อมยืนยันว่า ตำรวจสามารถรับมือการชุมนุมได้ไม่จำเป็นต้องขอกำลังทหารเพิ่มเติม และจะยังไม่มีการสลายการชุมนุม เพราะเกรงว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลาย
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักอยู่นั้น พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประชุมวางมาตรการดูแลความเรียบร้อยร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 และกรุงเทพมหานครแล้ว พร้อมยืนยันจะไม่อนุญาตให้พันธมิตรฯ ชุมนุมยืดเยื้อ
ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะตั้งวอร์รูมที่โรงเรียนสตรีวิทยา ป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มพันธมิตรกับกลุ่มผู้ต่อต้าน โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ รวม 600 นายดูแล หากเกิดความวุ่นวายจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด จึงอยากขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมชุมนุมเรียกร้องกันในกรอบของกฎหมายตามระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า การประชุมประเมินสถานการณ์การดูแลรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ตำรวจจะประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา พร้อมจะเจรจากับแกนนำกลุ่มให้ขึ้นไปชุมนุมบนทางเท้าไม่ให้ปิดกั้นการจราจร ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป เพราะขณะนี้ตำรวจจำเป็นต้องปิดถนนบริเวณแยกมิสกวันถึงแยก จปร. อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะใช้กำลังดูแลบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา จำนวน 18 กองร้อย หรือประมาณ 2,700 นาย สับเปลี่ยนกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วงเย็นวันนี้จะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมเพิ่มมากขึ้น พร้อมยืนยันว่า ตำรวจสามารถรับมือการชุมนุมได้ไม่จำเป็นต้องขอกำลังทหารเพิ่มเติม และจะยังไม่มีการสลายการชุมนุม เพราะเกรงว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลาย