นายธวัชชัย ดิษยนันท์ นายอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา รับทราบสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.บางสะพาน ว่า เมื่อมีฝนตกเกินกว่า 100 มิลลิเมตร ในรอบ 24 ชั่วโมง จะเกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และไหลท่วมพื้นที่ลุ่มเกือบเต็มพื้นที่ในหลายตำบล ซึ่งสาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือ คู คลองธรรมชาติที่รองรับน้ำอยู่ในสภาพตื้นเขิน ไม่สามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ทันนั้น ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ นายจตุรงค์ ปัญญาดิลก ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 5 ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นที่ เพื่อรับทราบสถานการณ์และพิจารณางบสนับสนุนเร่งด่วนที่ได้เสนอโครงการปรับปรุงและขุดลอกอีก 4 โครงการ งบประมาณ 7,874,000 บาท หลังจากที่ดำเนินการไปแล้ว 3 โครงการ และทุเลาปัญหาได้ระดับหนึ่ง
นายอำเภอบางสะพาน กล่าวยอมรับว่า โครงการการขุดลอกคู คลองดังกล่าว เป็นเพียงการแก้ปัญหาอุทกภัยระยะเฉพาะหน้าเท่านั้น เนื่องจากการโครงการที่จะสามารถแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริ รับผิดชอบโดยกรมชลประทาน ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะถูกคัดค้านจากประชาชนบางส่วนในพื้นที่ เนื่องจากการโครงการในทิศเหนือซึ่งต้องขุดคลองผันน้ำออกทะเลผ่านคลองแม่รำพึง และบางส่วนต้องผ่านพื้นที่ตั้งโครงการโรงถลุงเหล็กของบริษัทสหวิริยา ทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่า โครงการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทฯ สามารถนำเรือขนาดใหญ่เข้ามาได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่กรมชลประทานจะต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่คัดค้านต่อไป
นายอำเภอบางสะพาน กล่าวยอมรับว่า โครงการการขุดลอกคู คลองดังกล่าว เป็นเพียงการแก้ปัญหาอุทกภัยระยะเฉพาะหน้าเท่านั้น เนื่องจากการโครงการที่จะสามารถแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริ รับผิดชอบโดยกรมชลประทาน ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะถูกคัดค้านจากประชาชนบางส่วนในพื้นที่ เนื่องจากการโครงการในทิศเหนือซึ่งต้องขุดคลองผันน้ำออกทะเลผ่านคลองแม่รำพึง และบางส่วนต้องผ่านพื้นที่ตั้งโครงการโรงถลุงเหล็กของบริษัทสหวิริยา ทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่า โครงการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทฯ สามารถนำเรือขนาดใหญ่เข้ามาได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่กรมชลประทานจะต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่คัดค้านต่อไป