สำนักงานบรรเทาทุกข์หลายหน่วยในพม่ารายงานในวันนี้ว่า โรคระบาดและความหิวโหย กำลังเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อผู้รอดชีวิตจากไซโคลนนาร์กีสในพม่า ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสูงกว่า 22,000 คนแล้ว โดยเรียกร้องให้บรรดาผู้นำรัฐบาลทหารพม่าเปิดโอกาสให้สำนักงานบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศเข้าไปช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัย จนถึงขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 22,500 คน สูญหายอีก 41,000 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี อู่ข้าวอู่น้ำของพม่า
ไซโคลนนาร์กีส ถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในเอเชียนับตั้งแต่ปี 2534 ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 143,000 คน ในบังกลาเทศประเทศเพื่อนบ้าน นางแอน เวเนแมน ผู้อำนวยการกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่คับขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเด็ก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอันตรายจากโรคระบาดที่มากับน้ำ เช่น ไข้มาลาเรีย ไข้เลือดออก ท้องร่วง และอหิวาตกโรค รวมทั้งความหิวโหย จึงขอให้ทางการพม่าเปิดประตูต้อนรับความช่วยเหลือจากต่างชาติโดยด่วน
ไซโคลนนาร์กีส ถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในเอเชียนับตั้งแต่ปี 2534 ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 143,000 คน ในบังกลาเทศประเทศเพื่อนบ้าน นางแอน เวเนแมน ผู้อำนวยการกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่คับขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเด็ก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอันตรายจากโรคระบาดที่มากับน้ำ เช่น ไข้มาลาเรีย ไข้เลือดออก ท้องร่วง และอหิวาตกโรค รวมทั้งความหิวโหย จึงขอให้ทางการพม่าเปิดประตูต้อนรับความช่วยเหลือจากต่างชาติโดยด่วน
