นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการประชุมเรื่อง "การสื่อสารในงานอนามัยเจริญพันธุ์" ซึ่งมีบรรณาธิการข่าว ผู้สื่อข่าวหลายแขนง เข้าร่วมประชุม ว่า ปัจจุบันอัตราการเกิดของทารกในประเทศไทยต่ำกว่าอัตราทดแทนที่กำหนดไว้ร้อยละ 2 คือมีลูกครัวเรือนละ 2 คน โดยปี 2551 อัตราเกิดอยู่ที่ร้อยละ 1.5 คาดว่าอีก 17 ปีข้างหน้า หรือในปี 2568 อัตราการเกิดจะเหลือเพียงร้อยละ 1.45 ขณะที่เมื่อปี 2508 อยู่ที่ร้อยละ 6.8 ซึ่งจะกระทบต่อการพัฒนาประเทศโดยรวม เพราะประเทศไทยจะขาดแคลนบุคลากร การที่อัตราการเกิดลดต่ำลงนี้ เนื่องจากประเทศไทยประสบความสำเร็จด้านการคุมกำเนิดเกินไป คือ อัตราการคุมกำเนิดของผู้หญิงที่สมรสในปี 2521 อยู่ที่ร้อยละ 53.4 เพิ่มเป็นร้อยละ 81 ในปี 2551 โดยการคุมกำเนิดของกลุ่มคนมีฐานะ มีการศึกษาสูงกว่ากลุ่มมีฐานะยากจน สำหรับงานอนามัยเจริญพันธุ์ที่กรมอนามัยจะเร่งแก้ปัญหาคือ การค้นหาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะเนิ่น ๆ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรักษา อัตราการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยซึ่งปัจจุบันเสียชีวิต 300 คนต่อประชากรแสนคน โดยเฉพาะการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การรู้จักคุมกำเนิดป้องกันการตั้งครรภ์ การเข้าถึงบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย