สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างผลการสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันกว่า 10,000 คน ของเครือข่ายข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 28-30 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการเผยแพร่วานนี้ว่า ผู้ตอบข้อถามถึงร้อยละ 71 ระบุว่า พวกเขาไม่ชื่นชอบในผลงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่คะแนนความไม่ชื่นชอบประธานาธิบดีสหรัฐฯ สูงกว่าร้อยละ 70 และสูงกว่าร้อยละ 67 ที่อดีตประธานาธิบดีแฮร์รี ทรูแมน และอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ได้รับการจดบันทึกเท่ากันในการสำรวจ เมื่อเดือน มกราคม 2495 และเมื่อเดือน สิงหาคม 2517 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจของซีเอ็นเอ็นครั้งล่าสุดนี้พบว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีบุช ที่ลดลงเหลือร้อยละ 28 ยังอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 24 ที่อดีตประธานาธิบดีทรูแมน และอดีตประธานาธิบดีนิกสัน เคยได้รับ
ผลการสำรวจยังพบว่า สัดส่วนชาวอเมริกันที่สนับสนุนการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ในอิรักลดลงสู่ระดับต่ำสุด ในขณะที่สัดส่วนของผู้ที่คัดค้านนโยบายดังกล่าวพุ่งขึ้นเป็นร้อยละ 68 และนักวิเคราะห์เชื่อว่า นโยบายของประธานาธิบดีบุชเกี่ยวกับอิรักนี่เองที่เป็นสาเหตุหลักฉุดให้คะแนนนิยมของเขาดิ่งลงนอกเหนือจากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจของซีเอ็นเอ็นครั้งล่าสุดนี้พบว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีบุช ที่ลดลงเหลือร้อยละ 28 ยังอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 24 ที่อดีตประธานาธิบดีทรูแมน และอดีตประธานาธิบดีนิกสัน เคยได้รับ
ผลการสำรวจยังพบว่า สัดส่วนชาวอเมริกันที่สนับสนุนการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ในอิรักลดลงสู่ระดับต่ำสุด ในขณะที่สัดส่วนของผู้ที่คัดค้านนโยบายดังกล่าวพุ่งขึ้นเป็นร้อยละ 68 และนักวิเคราะห์เชื่อว่า นโยบายของประธานาธิบดีบุชเกี่ยวกับอิรักนี่เองที่เป็นสาเหตุหลักฉุดให้คะแนนนิยมของเขาดิ่งลงนอกเหนือจากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง