จากที่เกิดพายุฝนพลัดถล่มในพื้นที่ จ.ตาก โดยเฉพาะ 5 อำเภอชายแดนไทย-พม่า ฝั่งตะวันตก ประกอบด้วย อ.แม่สอด แม่ระมาด พบพระ อุ้มผาง และ อ.ท่าสองยาง โดยฝนได้ตกอย่างหนักติดต่อกันมา 4 - 5 วัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและแม่น้ำเมยล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรใน ต.วาเลย์ อ.พบพระ ที่อาศัยอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำเมย พังเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ราษฎรต้องขนข้าวของสำคัญไว้บนที่สูงและไปอาศัยกับบ้านญาติๆและวัดหรือโรงเรียนในหมู่บ้านเป็นการชั่วคราว ราษฎรเดือดร้อนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไม่มีที่อาศัยนับ 1,000 คน เป็นอุทกภัยที่หนักสุดในรอบ 40 ปี โดยหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดสภาพบ้านเรือนพังเสียหายยับเยิน ประกอบด้วย หมู่ 1.บ้านมอเกอร์ไทย หมู่ 2.บ้านวาเล่ย์ใต้ หมู่ 3.บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ 4.บ้านแม่ออกฮู และ หมู่ 5.บ้านยะพอ โดยสะพานไม้ที่ชาวบ้านสร้างข้ามแม่น้ำเมยไว้เพื่อติดต่อซื้อขายสินค้ากับประชาชนฝั่งพม่าถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกลากพลัดพังหายไปกับแม่น้ำเมย
นอกจากนี้ที่บริเวณ ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ดินบนภูเขาที่ถูกน้ำฝนตกมาอย่างหนัก ได้สไลด์ลงมาทับเส้นทางถนนสายต่างๆ ที่เชื่อมระหว่างตำบลและหมู่บ้าน รวมทั้งดินได้ทับบ้านเรือนราษฎร ในหมู่บ้านห้วยน้ำนัก และบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ เสียหาย อย่างหนัก และมีพื้นที่ดินบางแห่งยุบตัวลง นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งการให้นายจรัส ศรีมูล นายอำเภอพบพระ และสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ลงไปดูแลพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน พร้อมสำรวจความเสียหายเพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนพังเสียหาย อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานว่ามีประชาชนได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตหรือไม่
นอกจากนี้ที่บริเวณ ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ดินบนภูเขาที่ถูกน้ำฝนตกมาอย่างหนัก ได้สไลด์ลงมาทับเส้นทางถนนสายต่างๆ ที่เชื่อมระหว่างตำบลและหมู่บ้าน รวมทั้งดินได้ทับบ้านเรือนราษฎร ในหมู่บ้านห้วยน้ำนัก และบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ เสียหาย อย่างหนัก และมีพื้นที่ดินบางแห่งยุบตัวลง นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งการให้นายจรัส ศรีมูล นายอำเภอพบพระ และสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ลงไปดูแลพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน พร้อมสำรวจความเสียหายเพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนพังเสียหาย อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานว่ามีประชาชนได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตหรือไม่