รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังอยู่ระหว่างการทบทวนปริมาณการขายข้าวราคาถูกแก่ประชาชน เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระในช่วงที่ราข้าวพุ่งสูง ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจต้องลดปริมาณการขายข้าวราคาถูกแก่ประชาชน เนื่องจากฐานะทางการเงินของประเทศ
โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์อาจต้องใช้เงินกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท เพื่ออุ้มโครงการขายข้าวราคาถูก
นอกจากนี้ ธนาคารโลกเปิดเผยว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ใช้เงินราวร้อยละ 1.6 ของงบประมาณแผ่นดินในการชดเชยราคาข้าวนำเข้าจากปี 2543-2548 ทำให้เกิดแนวคิดว่าควรจะนำเงินที่จะใช้ชดเชยราคาข้าวนำเข้าจากต่างประเทศไปใช้ในการลงทุน เพื่อส่งเสริมการผลิตข้าวภายในประเทศให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ
อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องการตัดปริมาณขายข้าวราคาถูกนั้น ยังคงเป็นเพียงข้อเสนอแนะเท่านั้น
โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์อาจต้องใช้เงินกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท เพื่ออุ้มโครงการขายข้าวราคาถูก
นอกจากนี้ ธนาคารโลกเปิดเผยว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ใช้เงินราวร้อยละ 1.6 ของงบประมาณแผ่นดินในการชดเชยราคาข้าวนำเข้าจากปี 2543-2548 ทำให้เกิดแนวคิดว่าควรจะนำเงินที่จะใช้ชดเชยราคาข้าวนำเข้าจากต่างประเทศไปใช้ในการลงทุน เพื่อส่งเสริมการผลิตข้าวภายในประเทศให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ
อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องการตัดปริมาณขายข้าวราคาถูกนั้น ยังคงเป็นเพียงข้อเสนอแนะเท่านั้น