นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวภายหลังเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อกราบบังคมทูลถวายรายงานสรุปสถานการณ์น้ำในประเทศไทย ว่า หลังจากพระองค์ทรงทอดพระเนตรแผนที่ฝนตกของประเทศไทย พบว่า ปริมาณน้ำฝนโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่รูปแบบการตกของน้ำฝนเปลี่ยนไป ตกชุกบริเวณตอนล่างของเขื่อนมาก ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ โดยเฉพาะภาคอีสาน เบื้องต้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำรัสให้มีการทบทวนการบริหารจัดการน้ำใหม่ทั้งระบบ โดยตนเองจะเป็นผู้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมประชุมหารือต่อไป นอกจากนี้ ทรงมีพระดำรัสเกี่ยวกับการจัดการน้ำในเขตเมืองให้มีการสร้างทางน้ำไหลรอบๆ ตัวเมือง เพื่อป้องกันน้ำท่วม รวมทั้งพระองค์ทรงย้ำให้บริหารจัดการน้ำบริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีนให้ดี เนื่องจากจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะเรือนกล้วยไม้ได้
ด้านนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่ได้มีแผนการศึกษาวิจัย 25 ลุ่มน้ำของประเทศไทย ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) รวบรวมข้อมูลทั้งหมดของ 25 ลุ่มน้ำผ่านภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อหาพื้นที่ที่มีการกักเก็บของปริมาณน้ำฝนน้อยที่สุดและทำการปลูกป่าเพื่อเป็นต้นน้ำ อย่างไรก็ตาม หลังจากศึกษาแล้วจะเสนอให้รัฐบาลกำหนดนโยบายการบริหารจัดการน้ำต่อไป
ด้านนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่ได้มีแผนการศึกษาวิจัย 25 ลุ่มน้ำของประเทศไทย ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) รวบรวมข้อมูลทั้งหมดของ 25 ลุ่มน้ำผ่านภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อหาพื้นที่ที่มีการกักเก็บของปริมาณน้ำฝนน้อยที่สุดและทำการปลูกป่าเพื่อเป็นต้นน้ำ อย่างไรก็ตาม หลังจากศึกษาแล้วจะเสนอให้รัฐบาลกำหนดนโยบายการบริหารจัดการน้ำต่อไป