อัยการเปิดเผยข้อบกพร่อง 3 ประการในสำนวนคดีทุจริตกล้ายางของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้แก่ ไม่ปรากฏว่า คตส.ประสงค์ให้อัยการสูงสุดฟ้องนายบรรพต หงษ์ทอง ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 50 มีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ถูกต้องและไม่ครบถ้วน เช่น แจ้งข้อกล่าวหาเฉพาะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 151 ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงจำคุกตลอดชีวิต และแจ้งข้อกล่าวหาจากกฎหมายคนละฉบับ คนละข้อหา รวมทั้งไม่มีการแจ้งข้อหาฐานฉ้อโกง และที่สำคัญไม่มีบันทึกคำให้การของพยานสำคัญอยู่ในสำนวน
นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับ คตส.ฝ่ายละ 5 คน พิจารณาสำนวนที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่ง คตส.ยืนยันจะไม่สอบสวนเพิ่มเติม แต่จะนำสำนวนไปฟ้องเอง
นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส.เปิดเผยว่า เรื่องนี้ คตส.มีมติเป็นเอกฉันท์แล้ว ว่าจะส่งฟ้องเอง และมั่นใจว่าสำนวนถูกต้องชัดเจน ไม่ต้องสอบสวนเพิ่ม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขอสำนวนคืนจากอัยการสูงสุด เมื่อได้มาจะเร่งดำเนินการฟ้องทันทีให้ทันก่อนหมดวาระการทำหน้าที่ คตส.ในเดือนมิถุนายนนี้
นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับ คตส.ฝ่ายละ 5 คน พิจารณาสำนวนที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่ง คตส.ยืนยันจะไม่สอบสวนเพิ่มเติม แต่จะนำสำนวนไปฟ้องเอง
นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส.เปิดเผยว่า เรื่องนี้ คตส.มีมติเป็นเอกฉันท์แล้ว ว่าจะส่งฟ้องเอง และมั่นใจว่าสำนวนถูกต้องชัดเจน ไม่ต้องสอบสวนเพิ่ม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขอสำนวนคืนจากอัยการสูงสุด เมื่อได้มาจะเร่งดำเนินการฟ้องทันทีให้ทันก่อนหมดวาระการทำหน้าที่ คตส.ในเดือนมิถุนายนนี้