นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย หรือ ส.อ.ท โดยมีแนวโน้มว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ร้อยละ 83.2 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ โดยได้รับผลดีจากยอดคำสั่งซื้อ และขายปรับตัวเพิ่มขึ้นจากรายได้ของเกษตรกรที่รายได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยใน 6 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แก่อุตสาหกรรมกระจก อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล และโลหะ โรงกลั่นน้ำมัน และปิโตรเลียม
อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมใน 3 เดือนข้างหน้า จะปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้ประกอบการเริ่มกังวลต่อแนวโน้มต่ออุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบต่อการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน และการอ่อนค่าของค่าเงินสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง
นายสันติ กล่าวต่อไปว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่า ภาครัฐควรควบคุมราคาวัตถุดิบไม่ให้สูงเกินไป และเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ และเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในประเทศให้มากขึ้น รวมถึงดูแลราคาพลังงานให้มีความเหมาะสม และเร่งหาพลังงานทดแทน พร้อมกับดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมใน 3 เดือนข้างหน้า จะปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้ประกอบการเริ่มกังวลต่อแนวโน้มต่ออุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบต่อการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน และการอ่อนค่าของค่าเงินสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง
นายสันติ กล่าวต่อไปว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่า ภาครัฐควรควบคุมราคาวัตถุดิบไม่ให้สูงเกินไป และเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ และเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในประเทศให้มากขึ้น รวมถึงดูแลราคาพลังงานให้มีความเหมาะสม และเร่งหาพลังงานทดแทน พร้อมกับดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ