พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า พรรคมีมติที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในภาพรวมทั้งฉบับ แต่ต้องทำด้วยความเหมาะสม ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม และต้องรับฟังกระแสสังคมประกอบการพิจารณา โดยมีจุดยืนที่จะทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่มีความเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม เห็นว่าไม่จำเป็นต้องตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แก้ไข แต่ควรมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนร่วมพิจารณา ทั้งตัวแทนจากรัฐบาล ฝ่ายค้าน สมาชิกวุฒิสภา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และองค์กรต่าง ๆ จึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะถือว่ามีทุกภาคส่วนเข้าหารือเป็นข้อยุติแล้ว และมีความเป็นกลาง
พล.อ.เชษฐา เชื่อว่า หากดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว ทุกอย่างน่าจะเสร็จสิ้นได้ภายใน 8-9 เดือน ทั้งเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ เพราะได้รวมตัวแทนจากทุกภาคส่วนมาร่วมแล้ว เชื่อว่า หากแก้ไขในภาพกว้างด้วยเจตนาที่ดี ก็จะไม่มีปัญหา ยอมรับว่า อาจเกิดความรุนแรงในสังคมที่เป็นผลจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญบ้าง แต่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ดูแล และผู้ที่จะเคลื่อนไหวควรอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย รัฐบาลต้องเปิดกว้างและให้อิสระอย่างเต็มที่ในการแสดงความคิดเห็นด้วย
พล.อ.เชษฐา เชื่อว่า หากดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว ทุกอย่างน่าจะเสร็จสิ้นได้ภายใน 8-9 เดือน ทั้งเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ เพราะได้รวมตัวแทนจากทุกภาคส่วนมาร่วมแล้ว เชื่อว่า หากแก้ไขในภาพกว้างด้วยเจตนาที่ดี ก็จะไม่มีปัญหา ยอมรับว่า อาจเกิดความรุนแรงในสังคมที่เป็นผลจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญบ้าง แต่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ดูแล และผู้ที่จะเคลื่อนไหวควรอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย รัฐบาลต้องเปิดกว้างและให้อิสระอย่างเต็มที่ในการแสดงความคิดเห็นด้วย
