กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เรียกเอกอัครราชทูตไทยเข้าพบเมื่อวันศุกร์(11 เม.ย.) และเรียกร้องให้ทางการไทยดำเนินการสอบสวนคดีนายวิกเตอร์ บูท นักค้าอาวุธในตลาดมืดรายใหญ่ของโลก อย่างเป็นธรรมและปราศจากอคติใดๆ และว่า รัสเซียจะจับตาดูการสอบสวนคดีนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิบัติของไทยเป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล
นายบูทถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมหรูหราแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เขายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของทางการไทย ขณะรอการส่งตัวไปดำเนินคดียังสหรัฐฯ ซึ่งนายบูทถูกตั้งข้อหาทั้งสมคบให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ โดยการจัดหาอาวุธให้แก่กองกำลังติดอาวุธโคลัมเบีย หรือฟาร์ซ
นายบูท ถูกกล่าวหาว่า ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรด้านอาวุธของสหประชาชาติ บรรดาลูกค้าของเขา รวมถึงผู้นำจอมเผด็จการและขุนศึกแอฟริกา อดีตประธานาธิบดีชาร์ลส์ เทย์เลอร์ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย และคู่สงครามกลางเมืองในแองโกลา
นายบูทถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมหรูหราแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เขายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของทางการไทย ขณะรอการส่งตัวไปดำเนินคดียังสหรัฐฯ ซึ่งนายบูทถูกตั้งข้อหาทั้งสมคบให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ โดยการจัดหาอาวุธให้แก่กองกำลังติดอาวุธโคลัมเบีย หรือฟาร์ซ
นายบูท ถูกกล่าวหาว่า ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรด้านอาวุธของสหประชาชาติ บรรดาลูกค้าของเขา รวมถึงผู้นำจอมเผด็จการและขุนศึกแอฟริกา อดีตประธานาธิบดีชาร์ลส์ เทย์เลอร์ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย และคู่สงครามกลางเมืองในแองโกลา
