วันนี้(10 เม.ย.) เมื่อเวลา 01.20น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถบรรทุก10ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-0619 ระนอง บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่า มาถึงอ.สุขสำราญ จ.ระนอง พบผู้เสียชีวิตภายในรถจำนวน54 คนเป็นชาย 17 คน หญิง 37คน และบาดเจ็บจำนวน 21 คน ถูกนำตัวส่งรพ.สุขสำราญ และอยู่ระหว่างควบคุมตัวที่สถานีตำรวจ อีกจำนวน 44 คน รวมทั้งหมด 119 คน
จากการสอบถาม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบางกล้วยนอก อ.เมือง จ.ระนอง ทราบว่า แรงงานต่างด้าวเสียชีวิตอยู่ภายในรถห้องเย็นจอดอยู่ในป่า จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าจากการเปิดประตูหลังของรถห้องเย็น มีแรงงานต่างด้าวพม่าจำนวนมาก เสียชีวิตและ บาดเจ็บจำนวนมาก ถูกนำตัวส่งรพ.สุขสำราญ ขณะเดียวกันผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว ได้หลบหนีไป สาเหตุเกิดจากการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากแรงงานทั้งหมดได้ยืนเบียดเสียดกันมา โดยมุ่งหน้าไปจ.ภูเก็ต
ตำรวจสอบสวนทราบว่า แรงงานต่างด้าวดังกล่าวถูกนำมาจากแพ ที่เกาะสอง ประเทศพม่า ก่อนที่จะมาขึ้นรถบรรทุกคันดังกล่าว โดยขณะเกิดเหตุที่บริเวณวัดควนไทรงาม กิ่ง อ.สุขสำราญ จ.ระนอง คนในรถได้เคาะรถเพื่อส่งสัญญานให้ผู้ขับขี่ทราบว่า คนในรถได้เริ่มขาดอากาศหายใจ คนขับจึงจอดรถเพื่อมาเปิดประตูด้านหลัง จากนั้นวิ่งหลบหนีไป โดยแรงงานทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปขายแรงงานที่จ.ภูเก็ต ขณะเดียวกันศพผู้เสียชีวิตจะให้ทางมูลนิธิดำเนินการพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อชันสูตรต่อไป และจะประสานไปที่ประเทศพม่า ก่อนจะให้ญาติผู้เสียชีวิตมารับศพ
จากการสอบถาม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบางกล้วยนอก อ.เมือง จ.ระนอง ทราบว่า แรงงานต่างด้าวเสียชีวิตอยู่ภายในรถห้องเย็นจอดอยู่ในป่า จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าจากการเปิดประตูหลังของรถห้องเย็น มีแรงงานต่างด้าวพม่าจำนวนมาก เสียชีวิตและ บาดเจ็บจำนวนมาก ถูกนำตัวส่งรพ.สุขสำราญ ขณะเดียวกันผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว ได้หลบหนีไป สาเหตุเกิดจากการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากแรงงานทั้งหมดได้ยืนเบียดเสียดกันมา โดยมุ่งหน้าไปจ.ภูเก็ต
ตำรวจสอบสวนทราบว่า แรงงานต่างด้าวดังกล่าวถูกนำมาจากแพ ที่เกาะสอง ประเทศพม่า ก่อนที่จะมาขึ้นรถบรรทุกคันดังกล่าว โดยขณะเกิดเหตุที่บริเวณวัดควนไทรงาม กิ่ง อ.สุขสำราญ จ.ระนอง คนในรถได้เคาะรถเพื่อส่งสัญญานให้ผู้ขับขี่ทราบว่า คนในรถได้เริ่มขาดอากาศหายใจ คนขับจึงจอดรถเพื่อมาเปิดประตูด้านหลัง จากนั้นวิ่งหลบหนีไป โดยแรงงานทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปขายแรงงานที่จ.ภูเก็ต ขณะเดียวกันศพผู้เสียชีวิตจะให้ทางมูลนิธิดำเนินการพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อชันสูตรต่อไป และจะประสานไปที่ประเทศพม่า ก่อนจะให้ญาติผู้เสียชีวิตมารับศพ