ตำรวจสหประชาชาติในติมอร์เลสเตเปิดเผยวันนี้ว่า ติมอร์เลสเตได้ขยายคำสั่งภาวะฉุกเฉินที่ประกาศเมื่อเดือนที่แล้ว หลังเกิดเหตุโจมตีสองผู้นำระดับสูง ออกไปจนถึงวันที่ 22 เมษายน และว่า ขณะนี้สถานการณ์ในติมอร์เลสเต มีเสถียรภาพมากขึ้นแต่ยังเปราะบาง
ทั้งนี้ ติมอร์เลสเต ประกาศภาวะฉุกเฉินในวันเดียวกับที่เกิดเหตุโจมตีประธานาธิบดีโฮเซ รามอสฮอร์ตา และนายกรัฐมนตรีซานานา กุสเมา โดยห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานยามวิกาล และห้ามจัดการชุมนุมใดๆ
ส่วนประธานาธิบดีรามอส ฮอร์ตา ยังคงพักรักษาตัวในเมืองดาร์วิน ของออสเตรเลีย หลังออกจากโรงพยาบาล และในวันนี้เขายังให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวหากองกำลังรักษาความมั่นคงนานาชาติว่าล่าช้าในการจับกุมตัวกลุ่มกบฏที่ก่อเหตุดังกล่าว กองกำลังนานาชาติถูกส่งไปยังติมอร์เลสเต ตามคำขอร้องของรัฐบาลติมอร์เลสเต หลังเกิดเหตุวุ่นวาย เมื่อปี 2549 ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างทหารและตำรวจ ซึ่งนำไปสู่การก่อเหตุนองเลือด มีผู้เสียชีวิตไป 37 คน
ทั้งนี้ ติมอร์เลสเต ประกาศภาวะฉุกเฉินในวันเดียวกับที่เกิดเหตุโจมตีประธานาธิบดีโฮเซ รามอสฮอร์ตา และนายกรัฐมนตรีซานานา กุสเมา โดยห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานยามวิกาล และห้ามจัดการชุมนุมใดๆ
ส่วนประธานาธิบดีรามอส ฮอร์ตา ยังคงพักรักษาตัวในเมืองดาร์วิน ของออสเตรเลีย หลังออกจากโรงพยาบาล และในวันนี้เขายังให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวหากองกำลังรักษาความมั่นคงนานาชาติว่าล่าช้าในการจับกุมตัวกลุ่มกบฏที่ก่อเหตุดังกล่าว กองกำลังนานาชาติถูกส่งไปยังติมอร์เลสเต ตามคำขอร้องของรัฐบาลติมอร์เลสเต หลังเกิดเหตุวุ่นวาย เมื่อปี 2549 ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างทหารและตำรวจ ซึ่งนำไปสู่การก่อเหตุนองเลือด มีผู้เสียชีวิตไป 37 คน