ชายหนุ่มคนหนึ่งฟื้นขึ้นมาจากความตายขณะที่แพทย์กำลังเตรียมการผ่าตัดเพื่อนำอวัยวะของเขาไปช่วยผู้ป่วยรายอื่น หลังประสบอุบัติเหตุและได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตายเมื่อปลายปีที่แล้ว
พ่อแม่ของแซค ดันแลป วัย 21 ปี ได้รับการแจ้งจากแพทย์ว่าลูกชายของพวกเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนปีที่แล้วขณะพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยูไนเต็ด รีเจินนัล เฮลธ์แคร์ ซิสเต็มในเมืองวิชิตา ฟอลล์ส รัฐเท็กซัส หลังได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ 4 ล้อคว่ำ ขณะที่ครอบครัวของเขาอนุญาตให้แพทย์นำอวัยวะของเขาไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นได้
อย่างไรก็ตามในอีก 4 เดือนต่อมาหลังจากครอบครัวได้กล่าวคำอำลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย และแพทย์กำลังเตรียมการผ่าตัด แต่ได้ใช้มีดขูดที่เท้า รวมถึงกดที่ใต้เล็บมือของเขา เพื่อเช็คปฏิกิริยาตอบสนองเป็นครั้งสุดท้าย ปรากฎว่าเท้าและมือของเขากลับเคลื่อนไหวอีกครั้ง ซึ่งหลังจากฟื้นขึ้นมาและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 48 วัน ในที่สุดแพทย์ก็อนุญาตให้เขากลับบ้านได้
ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ (24) ที่ผ่านมา รายการทูเดย์ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ได้สัมภาษณ์ดันแลปและครอบครัวของเขา โดยชายหนุ่มได้กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีมากทีเดียว แต่มันเป็นเรื่องยาก...ไม่ใช่แค่ว่าต้องอดทนอย่างเดียว”
ดันแลป กล่าวด้วยว่า เขาจำอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย แต่สามารถจำเรื่องราว 6 ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี และจำเรื่องราว 1 ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้สิ่งที่เขาจำได้อย่างแม่นยำก็คือ ตอนที่แพทย์บอกกับพ่อแม่ของเขาว่าเขาตายแล้ว
นอกจากนี้ชายหนุ่มยังได้เก็บมีดพกเล่มที่แพทย์ใช้ขูดเท้าของเขา ซึ่งทำให้ร่างกายของเขามีปฏิกิริยาตอบสนองเป็นครั้งแรก ไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
“ผมเก็บมีดเล่มนั้นเอาไว้เพราะมันทำให้ผมรู้สึกขอบคุณหมอที่ไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะทำให้ผมฟื้นขึ้นมา คนดีๆ มักจะตายเร็ว ดังนั้นผมจึงไม่ตายง่ายๆ” ดันแลปกล่าวติดตลก
ดัก พ่อของชายหนุ่มผู้โชคดี กล่าวว่า เขาได้เห็นผลการเอ็กซเรย์สมองของลูกชาย ซึ่งในขณะนั้นสมองไม่ทำงาน และไม่มีเลือดไหลเวียนอยู่เลย
ขณะที่แพม ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า การที่ลูกชายของเธอฟื้นขึ้นมาในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากที่สุดในชีวิต ซึ่งขณะนี้ลูกชายของเธอมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับความจำจากการที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 1 ปีหรือมากกว่านั้นในการเยียวยากว่าที่จะหายเป็นปกติ
พ่อแม่ของแซค ดันแลป วัย 21 ปี ได้รับการแจ้งจากแพทย์ว่าลูกชายของพวกเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนปีที่แล้วขณะพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยูไนเต็ด รีเจินนัล เฮลธ์แคร์ ซิสเต็มในเมืองวิชิตา ฟอลล์ส รัฐเท็กซัส หลังได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ 4 ล้อคว่ำ ขณะที่ครอบครัวของเขาอนุญาตให้แพทย์นำอวัยวะของเขาไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นได้
อย่างไรก็ตามในอีก 4 เดือนต่อมาหลังจากครอบครัวได้กล่าวคำอำลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย และแพทย์กำลังเตรียมการผ่าตัด แต่ได้ใช้มีดขูดที่เท้า รวมถึงกดที่ใต้เล็บมือของเขา เพื่อเช็คปฏิกิริยาตอบสนองเป็นครั้งสุดท้าย ปรากฎว่าเท้าและมือของเขากลับเคลื่อนไหวอีกครั้ง ซึ่งหลังจากฟื้นขึ้นมาและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 48 วัน ในที่สุดแพทย์ก็อนุญาตให้เขากลับบ้านได้
ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ (24) ที่ผ่านมา รายการทูเดย์ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ได้สัมภาษณ์ดันแลปและครอบครัวของเขา โดยชายหนุ่มได้กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีมากทีเดียว แต่มันเป็นเรื่องยาก...ไม่ใช่แค่ว่าต้องอดทนอย่างเดียว”
ดันแลป กล่าวด้วยว่า เขาจำอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย แต่สามารถจำเรื่องราว 6 ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี และจำเรื่องราว 1 ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้สิ่งที่เขาจำได้อย่างแม่นยำก็คือ ตอนที่แพทย์บอกกับพ่อแม่ของเขาว่าเขาตายแล้ว
นอกจากนี้ชายหนุ่มยังได้เก็บมีดพกเล่มที่แพทย์ใช้ขูดเท้าของเขา ซึ่งทำให้ร่างกายของเขามีปฏิกิริยาตอบสนองเป็นครั้งแรก ไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
“ผมเก็บมีดเล่มนั้นเอาไว้เพราะมันทำให้ผมรู้สึกขอบคุณหมอที่ไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะทำให้ผมฟื้นขึ้นมา คนดีๆ มักจะตายเร็ว ดังนั้นผมจึงไม่ตายง่ายๆ” ดันแลปกล่าวติดตลก
ดัก พ่อของชายหนุ่มผู้โชคดี กล่าวว่า เขาได้เห็นผลการเอ็กซเรย์สมองของลูกชาย ซึ่งในขณะนั้นสมองไม่ทำงาน และไม่มีเลือดไหลเวียนอยู่เลย
ขณะที่แพม ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า การที่ลูกชายของเธอฟื้นขึ้นมาในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากที่สุดในชีวิต ซึ่งขณะนี้ลูกชายของเธอมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับความจำจากการที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 1 ปีหรือมากกว่านั้นในการเยียวยากว่าที่จะหายเป็นปกติ